นอภ.ยันตัวอาคารปลอดภัย ด้านนายเมือง ห่วงชิมเพลท จุดที่เหลือ ทางคอนโดฯเร่งหารือรื้อออก จากกรณีเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เกิดเหตุชิมเพลทซีเมนต์ ตกแต่งด้านข้างคอนโดมิเนียม ถล่มลงมาใส่ ซุ่มนั่งพักริมสระน้ำ จนทำให้นักท่องเที่ยวออสเตรเลีย ที่นั่งเล่นอยู่ได้รับบาดเจ็บ ขาหัก ศีรษะแตก ได้เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และมีรถจักรยานยนต์ของลูกบ้านที่พักอาศัยอยู่ ได้รับความเสียหาย รวมไปถึงมีการเคลื่อนไหวบนสังคมโซเชียลเน็ตเวลิค ลงไปต่างๆนาๆ สร้างความสับสน กังวลใจให้กับนักท่องเที่ยว และผู้พักอาศัย ล่าสุด เมื่อวานเวลา 19.36 น.วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ชิมเพลทซีเมนต์ ตกแต่งด้านข้างตัวอาคารในระดับชั้นที่ 37 ของคอนโดมิเนียม หลุดออกจากโครงสร้างอาคาร ตกลงมาใส่นักท่องเที่ยว จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว ทางนิติของคอนโดฯ แจ้งว่าไม่มีผลกระทบกับตัวโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด โดยทางเมืองพัทยาก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงแล้ว คาดว่าน่าจะไม่มีผลกระทบใด และได้มีการกันพื้นที่ พร้อมแจ้งกับลูกบ้านว่าเป็นเพียงแผ่นชิมเพลทตกลงมาเท่านั้น นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง ชี้แจงคอนโดฯแห่งนี้ สูง 45 ชั้น มีกว่า 1,000 ยูนิค สร้างมาประมาณ 8 ปี อยู่ในการดูแลของนิติบุคคล ซึ่งการสร้างอาคารสูงนั้นจะต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร ทางเมืองพัทยาก็ได้มีทีมช่างและวิศวกรคอยตรวจสอบอยู่แล้ว ขณะที่ก่อนหน้านี้เกิดแผ่นดินไหว ส่งผลให้ตึก สตง.ถล่มนั้น ทางคอนโดฯแห่งนี้ ได้มีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง ในส่วนของชิมเพลท ที่ถล่มลงมานั้นเรียกได้ว่าเป็นเหมือนเครื่องประดับให้ตัวอาคาร ซึ่งด้วยระยะเวลาอาจจะเกิดการชำรุดทำให้ร่วงหล่นลงมา และในชั้นถัดไป ยังมีชิมเพลทติดอยู่อีก 3 ด้าน ทางนิติก็จะเอาเข้าที่ประชุม เพื่อทำเรื่องขออนุมัติที่จะเอาออก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เข้าพักอาศัยทั้งคนไทยและต่างชาติ ไม่น่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรงใดๆ ในส่วนของภาพที่ลงเป็นไวรัลลงภาพตึกที่เอียงเอนนั้น เป็นมุมที่ถ่ายบนภูเขาจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด ด้านนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่าในการตรวจสอบของหน่วยงานนั้น ได้ตรวจสอบในเรื่องของความแข็งแรง เรื่องโครงสร้างไม่ใช่ปัญหาที่มีข่าวออกไป ในเรื่องของการถล่มของตึง สตง. ที่ทำให้ทุกคนไม่มีความมั่นใจ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ สำรวจและยืนยัน ที่แผงตกแต่งตกลงมาในส่วนของสระน้ำ เมื่อตัดประเด็นเรื่องโครงสร้างทิ้งทางเมืองพัทยาก็สบายใจขึ้น แต่ในส่วนของแผงตกแต่งนั้นมีทั้งหมดสี่ด้าน ถ้าเกิดหล่นลงมาแล้วหนึ่งด้าน ที่เหลืออีกสามด้านนั้น ก็ไม่สามารถจะมั่นใจได้ว่าอยู่ในสถานะภาพใด จึงได้มีการให้ปิดกั้น ในจุดที่อาจจะมีผลกระทบจากแผ่นตกแต่ง จะต้องเลี่ยงไม่ให้ผ่านในเส้นทางนั้น ให้ทางฝ่ายนิติบุคคลเป็นผู้บริหารจัดการเอง เพื่อให้ผู้ที่พักอาศัย ได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด เพราะความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุด จึงต้องขอความร่วมมือแกมบังคับ ที่จะไม่ให้ผ่านในจุดที่มีตัวแผงตกแต่งอยู่ด้านบน และจะลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ ส่วนในด้านทางกฎหมายนั้น ทางนิติบุคคลจะต้องมีการชดเชยค่าเสียหายและผู้บาดเจ็บ ส่วนในด้านอื่นนั้นยังไม่พบ ขณะนายสุวิทย์ ชัยสัตรา ผจก.อาคารชุด กล่าวถึงในการแก้ปัญหาเบื้องต้น ได้มีการแจ้งไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงลูกบ้าน และกันพื้นที่เกิดเหตุห้ามเข้าไปโดยเด็ดขาด ในเรื่องของสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหตุ คืออุปกรณ์ตกแต่งของตัวอาคาร ซึ่งโครงสร้างตึกนั้นยังคงปลอดภัย ส่วนแผนต่อไปในการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่พักอาศัย คือจะต้องมีการรื้อส่วนประกอบตกแต่งที่ยังเหลือออกให้หมด เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาในอนาคต ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นทางนิติ ได้โทรสอบถามอาการอยู่ตลอด พร้อมทั้งยืนยันว่าจะมีการเยียวยาตามลำดับต่อไป รวมไปถึงทรัพย์สินพวกรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหายด้วย

🎉 บ้านแสงแดด พูลวิลล่า 🎉 บ้านแสงแดด พูลวิลล่า (Baansaengdad Pool Villa) พัทยา ชลบุรี ยินดีต้อนรับสู่วิลล่าหรู 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ พร้อมมีอินเตอร์เน็ตไร้สายฟรีในทุกพื้นที่และที่จอดรถส่วนตัว 🏠 ‼ ราคาเริ่มต้น 15,000 บาท ‼️ 🏠 🛏 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 👩‍👩‍👧‍👧 เข้าพักได้ 13 - 15 ท่าน ❤️ สิ่งอำนวยความสะดวก ❤️ 🚘 ที่จอดรถ 🏊 สระน้ำส่วนตัว 🎤 คาราโอเกะ 💖 เตาปิ้งย่าง 🥣โต๊ะรับประทานอาหาร 🍽 อุปกรณ์ทำครัว 👉 รายละเอียด 👉 https://www.choowap.com/th/hotel/baansaengdad-pool-villa ------------------------------------------------------------------- 📌 สนใจจองบ้านพักพัทยา โทร 098-280-7106 📌 Line : https://goo.gl/qxWbZL 📌 Website : https://th.pattayapoolvillas.com/ #ที่พักพัทยา #พัทยา #บ้านพักพัทยาราคาถูก #บ้านพักพัทยา #บ้านพักพูลวิลล่าพัทยา #travel #holiday #โปรโมชั่น #บ้านพักสระว่ายน้ำส่วนตัว #บ้านพักแบบมีสระส่วนตัว #บ้านหลังใหญ่ #บ้านพักราคาถูก #บ้านจัดโปร #poolvilla #poolvillapattaya #ที่พักพัทยา #พัทยา #โรงแรมราคาถูก #ประเทศไทย #หาดจอมเทียน #เที่ยวพัทยา #ที่พักราคาถูก #บ้านพักพัทยาราคาถูก

เมนูเบิ้ลข้าว แหนมหมูทอดทำง่ายๆที่บ้าน ใส่พริกกระเทียม สะใจมาก ชอบอันนี้ มีให้เลือกหลายส่วน แนะนำกระดูกอ่อนใบพาย สันคอมีมันแทรก หมูนุ่มเปรี้ยวกำลังดี ทอดไฟกลาง พอสีเริ่มเปลี่ยนตักขึ้นเลยจะไม่แข็งไป กินกับข้าวสวยคือจบ อร่อย เป็นเมนูที่กินข้าวเปลืองมาก😋 พิกัดสั่งแหนมหมู ครัวคุณพิ้ง 🧡 Shopee : https://s.shopee.co.th/30aJkZxzFI 💗 TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSrMTgxhn/

🌞รายงานผลการทดลองการผลิตกำลังไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าเซลล์) ประจำวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.15 – 18.15 น. สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ทั้งหมด 82.40 หน่วย ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 46.23 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2e) และลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าภายในสำนักงานฯ ได้ 494.40 บาท 📍ฝ่ายทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกาะติดทุกสถานการณ์เมืองพัทยา แอด Line@ ที่ prpattaya เข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว

Fire sparks chaos at Pattaya condo in dead of nightLegacyHolidaymakers were left scrambling for safety after a fire erupted in a high-rise condominium in Jomtien during the early hours of yesterday. The drama unfolded at around 1.06am yesterday, May 28, when emergency services were alerted to a blaze on the 27th floor of a condo in Soi Chaiyaphruek 1, Pattaya. The Pattaya City Disaster Relief Centre swiftly dispatched a team of firefighters and volunteers from the Sawang Boriboon Thammasathan Rescue Foundation to the scene. Upon arrival, chaos had already taken hold. Tourists and residents were seen dashing from the building in panic as smoke poured from Room 2709, where the fire had broken out. The blaze reportedly started in the kitchen area, near several electrical appliances. Emergency crews quickly brought the situation under control, using chemical fire suppressants to extinguish the flames. Fortunately, only light smoke lingered, and there were no reported injuries. Initial investigations suggest an electrical short circuit sparked the fire. Although the damage to the unit was minimal, the incident caused widespread fear among those staying in the building, many of whom were jolted awake by fire alarms and the smell of smoke. One shaken tourist, still in his pyjamas, said, “It was terrifying. The alarm went off, and people were just running everywhere. You could smell the smoke even before we got out of the room.” Emergency services praised the quick thinking of other residents, who spotted the fire early and raised the alarm before it could escalate into something more dangerous. “Thanks to the prompt response from fellow residents and our emergency teams, a major disaster was avoided,” a spokesperson from the fire department said. Officials are continuing to investigate the incident to confirm the cause and ensure there is no further risk to building occupants, reported The Pattaya News. This incident adds to a series of fire-related scares in Pattaya’s rapidly growing condo sector, where high-density living and outdated electrical systems have raised safety concerns in recent years. The story Fire sparks chaos at Pattaya condo in dead of night as seen on Thaiger News.

คลี่ปม พบกะโหลกหญิงสาว ที่แปดริ้ว ขณะที่พัทยา มีสาวบาร์หายตัวปริศนา ผกก. สั่งสืบสวนทุกมิติ เพื่อตามหาบุคคลสูญหายปริศนา จากกรณี เพจเจ๊มอย สมาชิกแจ้งทางดั๊นว่า มีญาติเป็นผู้หญิงอายุ 43 ปีชื่อ เมทินี หายตัวไปนานกว่า 20 วัน ได้เข้าแจ้งความไว้ สภ.พัทยา เจอครั้งสุดท้าย ในซอยบัวขาว ติดต่อได้ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 05/05/2568 หลังจากนั้นก็สาปสูญเลย ก่อนหายตัวไปมีปัญหากับแฟนฝรั่ง ด้วยค่ะ เกรงว่าจะเป็นร่างที่พบที่ #แสนภูดาษ ถ้ายังอยู่ปลอดภัย ติดต่อญาติ หรือติดต่อดั๊นได้ค่ะ .. ความคืบหน้า วันที่ ( 28 พ.ค.68 ) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบาร์เบียร์ ที่ทางญาติของ ผู้เสียหายได้มีการแจ้งความไว้ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งอยู่ภายในซอยบัวขาวพัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และได้มีโอกาสได้พบกับ นางสาวนี นามสมมุติ อายุ 44 ปี ซึ่งรู้จักกับ […]

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. ห้วยใหญ่ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักชนรถจอดข้างทาง ไถลไปชนกับร้านขายต้มเลือดหมู มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 ขาเข้าบ่อวิน ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานกำลังอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยาเร่งรัดเข้าตรวจสอบช่วยเหลือ ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง นิสสัน อัลเมร่า สีเทา ทะเบียน จข 7540 ชลบุรี เสียหลักชนท้ายรถยนต์กระบะฟอร์ด สีเทา ทะเบียน ษธ 346 กทม ที่จอดอยู่ข้างทาง จากนั้นรถยนต์เก๋งพุ่งขึ้นฟุตบาทไปชนร้านต้มเลือดหมู จนตู้กระจก หม้อน้ำร้อน จานชาม โต๊ะ ล้มระเนระนาด ได้รับความเสียหาย ภายในรถยนต์เก๋งพบนางสาวนางสาวพัชรียา เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และยังพบคนที่นั่งมาด้วยภายในรถเป็นชาวจีนทั้งหมดสามคน มี MR.HONG สัญชาติจีน ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ทำการปฐมพยาบาลก่อนเคลื่อนย้ายนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง สอบถามนางสาวพัชรียา คนขับรถเก๋งเล่าเหตุการณ์ว่า ตนขับรถมาทางตรง จู่ๆมีรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ขับมาตัดหน้ารถ ตนจึงเบรครถกระทันหันประกอบด้วยตอนนั้นฝนตกด้วยถนนลื่นทำให้รถเสียหลักไปพุ่งชนกับรถจอดข้างทาง จากนั้นรถพุ่งขึ้นฟุตบาทไปชนกับร้านต้มเลือดหมูดังกล่าว ส่วนทางด้านนายจักรายุส เจ้าของร้านต้มเลือดหมู เล่าว่า ตนกำลังยืนลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ และยังมีลูกค้านั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในร้าน โชคดีที่ตนหันไปมองว่ามีรถเสียหลักพุ่งชนรถที่อยู่ด้านหน้าร้าน จึงกระโดดหลบ และตะโกนให้ทุกคนกระโดดหลบ จากนั้นรถเก๋งก็พุ่งเข้ามาภายในร้านข้าวของพังเสียหาย โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

เมื่อเวลา 00.30น. ของวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 นายอัง สัญชาติ เมียนมาร์ เสื้อสีเทา และ นายมาออง สัญชาติ เมียนมาร์ เสื้อสีขาว เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต. สุธีรพันธ์ ทาปศรี สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าถูกกลุ่มเพื่อนพนักงานที่ร้านอาหารเดียวกันรุมทำร้ายร่างกาย โดยชาวเมียนมาร์ 7-8 คน ไม่ทราบชื่อ รุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ด้วยอาวุธ มีดที่ใบหน้าและ ถูกชกต่อยใบหน้าเขียวช้ำตามตัวและคอ เหตุเเกิดภายในร้านอาหารอีหร่าน ภายในซอยวีซี 18 พัทยา หมู่10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี จากการสอบถาม นายมาออง กล่าว ว่าตนได้ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารอีหร่าน และเมื่อ2วันก่อนมีลูกค้าเยอะและตนได้บอกเพื่อนที่ทำงานด้วยกันให้ช่วยกันเก็บของ แต่เพื่อนไม่ยอมทำกับมาต่อว่าตนและมีการทะเลาะ ชกต่อยกันตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ และมาในวันนี้อีกตนก็มาทำงานตามปกติแต่คนที่เลาะกันไม่มาพอเวลาจะเลิกร้าน กลับพาเพื่อนมา7-8คนมารุมทำร้าย และ นายอัง เพื่อนที่ทำงานอีกคนได้เข้ามาห้ามแต่กลับถูกอาวุดมีดฟันเข้าที่หน้า1ครั้ง ตรงแก้มซ้ายมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก พอเห็นมีเลือดไหลกลุ่มผู้ก่อเหตุก็พากันหลบหนีไป ส่วนพวกตนก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ กลุ่มผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปแล้วส่วนกล้องวงจรปิดตรงที่เกิดเหตุก็ไม่สามารถจับภาพได้เพราะกลุ่มคนทำร้ายเป็นพนักงานที่ร้านจึงรู้มุมกล้องและพากันหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแนะนำให้พวกตนมาแจ้งความและนำกล้องวงจรปิดวันที่เกิดเหตุทีแรกมาด้วย เพื่อให้ตำรวจชุดสืบสวนได้ดู และลงพื้นที่ตรวจสอบหากล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุและติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้าย ที่คาดว่าเป็นผู้ชายเร่ร่อนมีอายุ รูปร่างผอมสูง ใส่เสื้อยืด สวมใส่กางเกงขาสั้น ไม่ปิดบังใบหน้า เดินย่องเข้ามาในร้านนวดขณะที่เจ้าของร้านนอนหลับอยู่ ขโมยโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน บนหัวนอน แล้วรีบหลบหนีไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 26 พฤษภาคม เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนางสาวกิตติยา เจ้าของร้านนวด อยู่ในพัทยาสายสองซอย. 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี นำกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ มอบให้กับผู้สื่อข่าว ช่วยหาเบาะแสของคนร้าน โดยนางสาวกิตติยา เจ้าของร้านนวดเล่าว่า วันเกิดเหตุ หลังที่ปิดร้านแล้ว ตนรู้สึกเพลียไม่สบาย จึงได้นอนพักผ่อนอยู่ที่เตียงนวดภายในร้าน โดยปิดม่านที่เตียงอย่างมิดชิด และเตียงข้างข้างก็มีพนักงานของร้านนอนอยู่ด้วย ขณะที่หลับอยู่ได้วางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ยีห้อ ชัมซุง รุ่น A 33 สีดำ และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้ออ๊อฟโป้ รุ่น A 96 สิครีม และกระเป๋าสตางค์ ในนั้นมีเงินสด จำนวน 5,000 บาท วางไว้บนหัวนอน พอตื่นขึ้นมาเวลาประมาณ 04.00 น.ก็หาโทรศัพท์ และกระเป๋าเงิน ที่หัวเตียง ไม่เจอ จึงเรียกพนักงานมาสอบถามทั้งหมดก็ไม่มีใครเห็น จึงเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่ามีคนร้ายย่องเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ขณะที่ตนนอนหลับ เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ ร.ต.ท. ศักยภาพ ชัยเดช รองสอบสวน สภ.เมืองพัทยา แล้ว ซึ่งก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

จากกรณีเหตุทะเลาะวิวาทรุนแรง เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 บริเวณถนนหนองปรือ ใกล้ร้านขายเนื้อหมู-เนื้อไก่ ม.3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 17.00 น. ( 23 พ.ค.68 ) ผู้สื่อข่าว ได้คลิปภาพวิดีโอ กลุ่มผู้หญิงตบกัน เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค.68 ( ก่อนหน้าวันเกิดเหตุเพียง 1 วัน ) ซึ่งต้นเหตุ ของเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนจะมีการ ออกอุบายให้ ให้มีการออกมาเจรจาและขอโทษกัน ( มีข้อความแชต ) แต่สุดท้ายเหตุการณ์บานปลาย เมื่อกลุ่มผู้ชาย ที่ติดตาม กลุ่มผู้หญิงทั้ง 2 ฝ่ายมาด้วย เกิดเขม่นกัน จนเป็นเหตุให้ เกิดเหตุการณ์ใช้อาวุธมีดไล่ฟันกัน จนรถจักรยานยนต์เสียหลักไปชนรถเอสยูวีของชาวบ้าน รวมถึงกล้องวงจรปิดจับภาพ 1 ในฝ่ายคู่กรณี ขี่รถจักรยานยนต์วนกลับมาแล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มรถเก๋ง 1 นัด ( วจป.เวลา 00.11 น.) โชคดีที่ไม่มีใครโดนคุมกระสุนปืน หลังก่อเหตุก็พากันแยกย้ายหลบหนีไป ล่าสุด พ.ต.อ.ณัฐพล ผ่องสุขสกุล ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนา วิเศษชัย รอง ผกก.สส. และ ชุดสืบสวน ควบคุมตัวกลุ่มชายวัยรุ่นที่ก่อเหตุ 8 คน พร้อมตามไปยึด อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก อาวุธมีด และ อาวุธไม่ขอ ได้จำนวนหนึ่ง ก่อนจะควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำที่โรงพัก สภ.หนองปรือ โดยทั้ง 8 คน ให้การยอมรับสารภาพ ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยในคืนเกิดเหตุได้เดินทางมา คอยคุมเชิงให้กับ กลุ่มผู้หญิงที่นัดเคลียร์ปัญหากัน แต่พอมาถึงเกิดการเขม่นกันกับอีกฝ่าย นายตัน อายุ 19 ปี และ นายณัฐ อายุ 19 ปี ทั้งคู่เป็นชาวกัมพูชา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ประกบ นายตี๋ คนเจ็บ และ นายศตวรรษ ผู้เสียชีวิต แล้วใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่แขน จนรถจักรยานยนต์ของคนเจ็บและคนตายเสียหลักล้ม ไปชนกับรถที่จอดอยู่ข้างถนน จากนั้นก็ตามไปก่อเหตุซ้ำ แต่ถูกกลุ่มอีกฝ่ายขับรถเก๋งได้ชน นายเวย์ เห็นว่าเพื่อนสู้ไม่ได้ จึงใช้อาวุธปืนลูกซองสั้น ยิงใส่ฝ่ายคู่อริ 1 นัด เพื่อเปิดทางนี้ หลังก่อเหตุใกล้แยกย้ายกันหลบหนีก่อนจะถูกตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำ ดังกล่าว ต่อมาตำรวจได้ กลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดไปทำแผนประกอบความรับสารภาพ ซึ่งระหว่างควบคุม ปรากฏว่าญาติ และเพื่อนๆ ของฝ่ายผู้เสียชีวิต มาจับกลุ่ม ตะโกนด่าจนลั่นโรงพัก ตำรวจต้องคอยควบคุมสถานการณ์ เนื่องจากหวังว่าจะเกิดบานปลาย ส่วนในเรื่องของการแจ้งข้อกล่าวหากล่าว ตำรวจอยู่ระหว่างการแยกสอบปากคำ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป