เมื่อเวลา 20.06 น.วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ว่าที่ ร.ต.ชลธิศ เลยานนท์ ป้องกันจังหวัดชลบุรี นายณฐาภพ ยมจินดา ปลัดอำเภอบางละมุง พ.ต.ท.สุชาติ ดุสดี สวป.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดชลบุรี อำเภอบางละมุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา สุ่มตรวจสถานบันเทิง สถานบริการ เพื่อป้องปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ทั้งปล่อยปะให้เยาวชนเข้าใช้บริการ ยาเสพติด รวมไปถึงอาวุธปืน ในพื้นที่พัทยา อำเภอบางละมุง โดยได้นำกำลังไปตรวจสอบสถานบริการทั้งหมด 4 ร้าน ทั้งใบอนุญาต ต่างๆ ประวัติพนักงาน บัตรประจำตัวผู้เข้าใช้บริการ อาวุธ รวมไปถึงตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายของ พนักงานทั้ง 4 ร้าน ซึ่งไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เยาวชนอายุต่ำ รวมไปถึงผู้ที่มีสารเสพติดในร่างกาย แต่อย่างใด แสดงถึงความเข้มงวดของแต่ละร้าน ที่ยึดถึงทำตามมาตรการของทางภาครัฐ ด้านว่าที่ ร.ต.ชลธิศ เลยานนท์ ป้องกันจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ในการลงตรวจในครั้งนี้ตามนโยบายของนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้สนธิกำลังร่วมกันระหว่างปกครองจังหวัด ปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. เมืองพัทยา แก้ไขปัญหาสังคมในเรื่องยาเสพติด และเพื่อป้องกันในเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องมีความปลอดภัย เมื่อนักท่องเที่ยวมาจะต้องมีความอุ่นใจ และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ให้เคร่งครัดตามมาตรการของภาครัฐด้วย

จากกรณีเมื่อกลางดึกวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เจ้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทยา หลังตู้พักกู้ภัยฯ ถูกชาวต่างชาติร่างยักษ์ งัดทำร้ายจนได้รับความเสียหาย หลายรายการ ก่อนจะหลบหนีไปอย่างหน้าตาเฉย ล่าสุดเมื่อเวลา 16.06 น. วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 พ.ต.ท.ต่อลาภ ตินะมาตร สวญ.ส.ทท.กก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.ศุภรัตน์ มีปรีชา ,พ.ต.ต.อภิชาติ จารุรักษ์ สว.สว.ส.ท.4 กก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ติดตามจับกุมตัวMR.NATHAN JAMES WEBBER อายุ 51 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ได้ที่บ้านพักภายในซอยนาจอมเทียน 8 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยเจ้าตัวให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดจริง จากการสอบถามเจ้าตัวให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในวันดังกล่าว ตนเองมีอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก แล้วรถจักรยานยนต์ของตนเองเกิดชำรุด ใกล้กับตัวกู้ภัยฯดังกล่าว จึงหวังจะเข้าไปขอความช่วยเหลือ ก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันอยู่ภายในตู้ แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเปิดประตูให้ ด้วยความเมาจึงผลักประตูเข้าไป ก็พบว่าเสียงดังกล่าวนั้นไม่ใช่เสียงคนพูดคุยกัน แต่เป็นเสียงวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่ ภายหลังได้พูดคุยกับตัวเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ แต่ก็สื่อสารกันไม่รู้เรื่องตนเอง ก็ทิ้งทั้งรถและโทรศัพท์มือถือไว้ที่ตู้กู้ภัยฯ แล้วเดินแยกไปดังกล่าว เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติ MR.NATHAN JAMES WEBBER อายุ 51 ปี สัญชาติออสเตรเลีย พบว่า "เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกิน 343 วัน)ส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

จากกรณีที่ นายวีรพล เข้าแจ้งความร้องทุกข์กลับ ร.ต.อ.หญิง สิริยาภรณ์ คงเพชรศักดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี หลังตนเองถูกชายฉกรรจ์สามคน สวมเสื้อกั๊กคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจกักขังหน่วงเหนี่ยว รุมทำร้ายร่างกาย แล้วใช้อาวุธปืนข่มขู่ อุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์พาไปค้นบ้านพักของตนเอง ทั้งยัง ขู่ทิ้งท้ายอีกว่าหากแจ้งตำรวจเตรียมตัวตายได้ ล่าสุดเวลา 13.00น. ของวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พ.ต.ท.ธนาว วิเศษชัย รองผกก.สส.สภ.หนองปรือ พ.ต.ท.สุพัฒน์ สุดสงค์ สว.สส.สภ.หนองปรือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในซอย มาบยายเลีย8/1 ก็พบนายธีระศักดิ์ นั่งอยู่หน้าห้องที่เกิดและ ใบหน้าตรงกับคนที่ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ ก็ให้การยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุจริง ตรวจสอบภายในห้องพักก็พบ นางสาวพิชญาภา หรือมิ้น ผู้หญิงติดต่อให้ผู้เสียหายมาหานอนอยู่ภายในห้อง ตรวจค้นภายในห้องพักก็พบอาวุธปืนปลอม สีดำแบบอัดลม 1กระบอก และพบมือถือของผู้เสียหายอีก1เครื่อง สอบถามนายธีระศักดิ์ ผู้ก่อเหตุอ้างว่าตอนเกิดเหตุนายบอลหรือผู้บาดเจ็บได้ติดต่อมาหาแฟนของตน พยายามทักหาตลอดจะมาหา ตนจึงบอกให้แฟนบอกให้มาหาที่ห้องตน และเพื่อนอีก2คนอยู่ด้วย คือ นายเบียร์ และบังลี่ พอนายบอลมาถึง ก็เหมือนจะเอายาเสพติดมาด้วยเพื่อมาเสพกับมิ้นแฟนสาว พวกตนจึงแสดงตัวและปิดห้องทำร้ายนายบอล พร้อมกับเอาปืนอัดลมออกมาข่มขู่ ค้นตัวนายบอลก็เจอยาเสพติดจำนวนหนึ่ง พวกตนจึงนำไปเสพ ส่วนนายบอลก็เสพด้วย แต่ไม่ได้อ้างว่าเป็นตำรวจเลยและพานายบอลไปค้นที่บ้านเพื่อจะเอายาเสพติดที่เหลือ แต่ก็มีแค่นิดเดียว พอได้ยาก็พากันกลับเลย ส่วนพวกตนกับนายบอลก็ไม่ได้รู้กัน กันมาก่อนหน้านี้เลยจะรู้จักกันแค่กับแฟนคือมิ้น ส่วนที่ก่อเหตุคือยอมไม่ได้ที่มาทักหาแฟนตน จึงพากันก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายธีระศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ และนางสาวพิชญาภา หรือมิ้น พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนอัดลม1กระบอดก โทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ห้องสืบสวน สภ.หนองปรือ และในส่วนเพื่อนผู้รวมก่อเหตุอีก2คน คือนายเบียร์ และบังลี่ได้หลบหนีไปแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามตัวมาให้ได้ และจะเรียกนายวีรพลผู้บาดเจ็บมาสอบสวนเพิ่มเติมเพราะว่าผู้ก่อเหตุกับผู้บาดเจ็บยังให้การไม่ตรงกัน และหากพบว่าทำผิดจริงจะดำเนินคดีตามกฏหมายและให้ความเป็นธรรมกับทั้ง2ฝ่าย

เมื่อเวลา 01.06 น. วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ. เมืองพัทยาภายใต้อำนวยการของพล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ผู้ก่อเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยว ภายในบ้านพลูวิลล่า โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเช่า ไม่มีเลขที่ภายในซอยเขามะกอก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ผู้ต้องหาสองรายคือนายอธิป หรืออาร์ม สมลือแสน อายุ 31 ปี และนายกุน อายุ 22 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อม ของกลางกว่า 100 รายการ มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท สืบเนื่องจากได้รับการแจ้งความร้องทุกข์จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จำนวนหลายราย ที่เข้าพักภายในบ้านพลูวิลล่าหมู่บ้านพลูวิลล่า ปาล์มสปริง และหมู่บ้านปาล์มโอเอซิส วิลเลจ ว่าถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์สินสูญหายไปรวมแล้วหลายรายการ โดยเหตุเกิดในช่วงเดือนพฤษภาคมทั้งสิ้น หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน กระทั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดจึงพบผู้สงสัยเป็นผู้ชายสองคน ใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์เข้ามาก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงออกหาเบาะแสจนกระทั่งพบว่าทั้งสองพักอยู่ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งภายในซอยเขามะกอก เมื่อตรวจค้นจึงพบของกลางซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้เสียหายจำนวนมาก เป็นนาฬิกาแบรนด์หรู กระเป๋าหลุยส์ เครื่องเล่นเกม Nintendo โทรศัพท์มือถือ บัตรประชาชน บัตรเครดิต และบัตรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก รวมถึงเงินตราต่างประเทศ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมควบคุมตัวทั้งสองมาสอบปากคำ ซึ่งทั้งสองให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยทรัพย์สินที่ได้จะนำมาเก็บไว้แล้วทยอยขายนำเงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน เสพยาเสพติด และยังให้ข้อมูลว่าตนเองนั้นเคยเป็นช่างที่เคยเข้ามาตกแต่งต่อเติมบ้านพลูวิลล่า ที่เกิดเหตุจึงทำให้รู้ ช่องทางการเข้าออกของทุกหลัง ซึ่งทั้งคู่จะคอยเฝ้าดู ว่าบ้านหลังไหนมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพัก แล้วรอจังหวะที่นักท่องเที่ยวสังสรรค์กันจนเมาหลับ ก็จะพากันเข้าไปกวาดเอาทรัพย์สิน แล้วหลบหนีไปอย่างง่ายดาย จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยจับกุมไว้ได้ดังกล่าว เบื้องต้นได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองราย พร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย ส่วนทรัพย์สินที่เป็นของกลางนั้นก็จะให้เจ้าของทรัพย์สิน นำหลักฐานมาติดต่อรับทรัพย์สินของตนเองต่อไป อย่างไรก็ตามพล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ยังฝากเตือนไปถึงผู้ประกอบการบ้านพลูวิลล่าและนักท่องเที่ยว ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเข้าพัก ในสถานที่ต่างๆให้มีการป้องกันด้วยการปิดล็อค ทั้งประตูและหน้าต่าง เพื่อความปลอดภัยในเบื้องต้นของตนเองและทรัพย์สินด้วย

(18 พ.ค.68) ที่ เทวาลัยมหากาลีอวตารจักรวาลชนนี ซอยเกษตรสิน เขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นางสาวอำพร แก้วแสง ผู้ก่อตั้งเทวาลัยมหากาลีอวตารจักรวาลชนนี เป็นเจ้าภาพทำบุญบารมีทาน แจกจ่ายทานบารมี ข้าวสารและน้ำดื่ม ให้กับผู้ยากไร้ รวมจำนวน 2,000 ชุด โดยมีพันธมิตรจิตอาสาร่วมแจก อาทิ พ.ต.ท.สุชาติ ดุสดี สวป.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย นายสิทธิชัย อาจทรง สมาชิก อบจ.ชลบุรี, นายวุฒิธร แสงอุไร สมาชิกสภาเมืองพัทยา, นายธณพง โคตรมณี ว่าที่นายกเทศมนตรีตำบลเขาชีจรรย์, นางบุณรดา เศรษฐา ผู้บริหาร Happy Hill Restaurant คณะกรรมการ กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อาสาตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และพนักงานในเครือ เดอะ สโตน เฮ้าส์ พัทยา คอยให้บริการอำนวยคยามสะดวกให้กับประชาชนที่มารับแจกข้าวสาร นางสาวอำพร แก้วแสง ผู้ก่อตั้งเทวาลัยมหากาลีอวตารจักรวาลชนนี เป็นเจ้าภาพทำบุญแจกทาน กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมการกุศลดังกล่าว จัดขึ้น เนื่องในเดือนเกิด จึงได้แจกข้าวให้กับผู้ยากไร้ เพื่อเป็นการทำบุญ อีกทั้งได้เชิญชวนผู้ที่เกิดเดือนเดียวกันมาร่วมรับบุญกันในครั้งนี้ ด้วยการแจกข้าวจำนวน 2,000 ถุง และน้ำดื่ม 2,000 แพ็ค โดยประชาชนที่มารับแจกข้าวในครั้งนี้มาจากหลายพื้นที่ใกล้ไกล ทั้ง ระยอง ชลบุรี บางปะกง และสัตหีบ ซึ่งน่าจะได้รู้ข่าวจากเพจที่นักข่าวช่วยกันกระจายข่าวออกไป ส่วนของที่เหลือจะนำไปแจกต่อที่วัดและหมู่บ้านชากนอก และยังมีกิจกรรมอื่น ๆอีก เช่น การไปเลี้ยงอาหารผู้พิการซ้ำซ้อน และจะมีกิจกรรมเล่นดนตรีให้น้อง ๆ ได้มีความสุขกันด้วยทั้งนี้ในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ระหว่างวันที่ 27–28 พ.ค. จะเดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อทำพิธีบวงสรวงที่บ้าน แล้วก็จะนำข้าวและน้ำไปแจกชาวบ้านทั้งหมู่บ้านเช่นกัน โดยการแจงทานในวันนี้ ยังมีโรงทานอาหารปรุงสุก มาแจกให้กับประชาชนที่มารอรับข้าวสารและน้ำดื่ม ได้อิ่มท้อง มีทั้งก๋วยเตี๋ยวไก่ โรตี ส้มตำ และขนมครก และเครื่องดื่ม เป็นต้น

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 68 ที่ โรงเรียนบ่อกวางทอง หมู่ 4 ตำบลบ่อกวางทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 1,000 คน ได้มารวมตัวร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นกับผู้ประกอบการของโรงงานผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกและโรงงานผลิตกระเบื้องพื้นไวนิล ซึ่งเป็นของนายทุนชาวจีน โดยมีนายจิรวุฒิ สิงโตทอง ส.ส.ชลบุรีและนายนันทวัฒน์ ทองช่วง นายอำเภอบ่อทอง พร้อมด้วยผังเมืองและอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ผู้นำท้องที่และท้องถิ่นเข้าร่วมในการประชุมดังกล่าว โดยในที่ประชุมได้มีการเรียกร้องให้โรงงานได้ชี้แจงและอธิบาย แต่ก็มีชาวบ้านบางกลุ่มไม่เห็นด้วยและไม่อยากได้โรงงานถือป้ายประท้วงการสร้างโงงาน ในขณะมีชาวบ้านอีกบางกลุ่มบอกว่าถ้าโรงงานไม่ได้สร้างความเดือดร้อนและมลพิษไม่มีผลกระทบก็ยินดีที่จะให้มีโรงงาน เพื่อชาวบ้านในพื้นที่จะได้มีงานทำแต่ต้องทางผู้ประกอบการต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งในการประชุมในครั้งนี้ทางโรงงานยังไม่พร้อมเตรียมเอกสารชี้แจงให้ชาวบ้านให้เข้าใจ ขอเวลาเตรียมการแล้วจะแจ้งให้ทราบ โดยจะมีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านก่อน จึงจะวามารถดำเนินการตามขั้นตอนก่อสร้างตามกฏหมายได้

ช่วงกลางดึกของวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปจากชาวบ้าน หลังพบเบาะแสบุคคลลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ริมชายหาดพัทยา ห่างจากโรงพักไม่ถึง 500 เมตร โดยเกรงว่าจะทำลายภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว โดยผู้แจ้งแส ได้แอบบันทึกเป็นคลิปวิดีโอ ระหว่างทำทีติดต่อขอซื้อยาเสพติด จากเอเย่นต์รายนี้ เป็นผู้หญิงไทยอายุประมาณ 35 ถึง 40 ปี ลักษณะคล้ายนั่งปล่อยเสื่ออยู่ริมชายหาด โดยพลเมืองดีได้นำคลิปดังกล่าวมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา ถึงพฤติกรรมการเสนอยาเสพติดประเภทยาไอซ์ ราคา 800 บาท ก่อนจะทำทีต่อราคา ราวกับสินค้าถูกกฎหมาย โดยเอเย่นต์รายนี้ ไม่ได้เกรงกลัวต่อกฎหมายแต่อย่างใด ยังมีการนัดรับยาเสพติดกัน ในซอยข้างกับสถานีตำรวจ ภายหลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. เมืองพัทยา ได้นำกำลังไปติดตามจับกุม บุคคลดังกล่าวที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ ซึ่งได้ให้สายลับไปติดต่อล่อซื้อยาเสพติดประเภทที่ 1 ยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง ในราคา 800 บาท เมื่อทำการซื้อขายกันสำเร็จจึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

โลกโซเซียล " ตลาดล่างอัพเดรด" ลงคลิปความยาวประมาณ 2 นาที พร้อมทีคำบรรยาย "คุณทำให้การท่องเที่ยวไทยเสียชื่อเสียง ไปเที่ยวพัทยาโดนคนของคนเรือนี้ ด่าเ_ย สัตว์ หยาบคายมาก ไล่นักท่องเที่ยวอีก บนเรือมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 23 คน" จนมีคนเข้าไปคอมเม้นจำนวนมาก ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ติดต่อคนโพสต์ทราบว่าได้เดินทางกลับ กทม.แล้ว ต่อมาวันนี้ ( 13 พ.ค.68 ) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกาะล้าน เมืองพัทยา ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อพบกับ นางกาญจนา ตันเจริญ หรือเจ๊น้อง อายุ 55 ปี พนักงานประจำเรือ บริษัทเกาะล้านรีแล็กซ์ และ เป็นคนที่อยู่ในคลิปดังกล่าว นางธาริษา เล่าว่า วันเกิดเหตุน่าจะประมาณบ่าย 2 หรือ 3 วันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองให้บริการนักท่องเที่ยวด้ำน้ำดูปะการัง ที่บริเวณเกาะสาก ซึ่งเรือจะจอดที่บริเวณนี้ประจำ ส่วนคู่กรณีเป็นเรืออีกลำที่มาจอดเทียบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาที่เรือเราเพื่อดำน้ำดูปะการัง จริงๆแล้วมีเรื่องเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวลำเค้าใส่ชูชีพของบริษัทเรา ก็เลยบอกให้นักท่องเที่ยวเค้าถอด ซึ่งตนเองเป็นคนพูดเสียงดังอยู่แล้ว และยิ่งต้องพูดคุยกับนักท่องเที่ยวจีนก็ต้องเสียงดัง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในคลิปเกิดจากตนเองฟังภาษาจีนออก เขาพูดกับนักท่องเที่ยวเขาให้ระวังของมีค่าเก็บให้ดีจะถูกขโมย โดยตนฟังแล้วเหมือนเขาว่าพวกตนจะขโมยของ มันเลยเกิดอารมณ์ขึ้นมา ซึ่งตนเองก็ยอมรับผิดทีพูดจาไม่ดี แต่มันอดกั้นไม่ไหวเลยอารมณ์ขึ้นมา นางกาญจนา พูดอีกว่า ตนเองทำงานมากว่า 20 ปี ดูแลนักท่องเที่ยวมาก็เยอะแต่ไม่เคยเจอแบบนี้ และนักท่องเที่ยวทีมาใช้บริการก็ไม่เคยของหาย ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจด้วย ส่วนที่ใช้วาจาไม่ดีก็ยอมรับและขอโทษ นายคณิต ภู่เอี่ยม อายุ 28 ปี ตัวแทนบริษัท เปิดเผยว่า ทางบริษัทดำเนินกิจการมากว่า 20 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์ทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวสูญหายเลย ส่วนทรัพย์ของนักท่องเที่ยวที่ตกทะเล หรือเป็นมือถือหากตรวจสอบจากgps พบว่าอยู่บริเวณที่ดำน้ำ ก็จะให้พนักงานของบริษัทดำลงไปหาให้ ส่วนเรื่องกังกล่าวตนเองในฐานะตัวแทนบริษัท ก็ขอโทษที่ทางพนักงานบริษัทใช้วาจาไม่ดี และขอโทษที่ทำให้เสื่อมเสีย แต่ก็อยากให้ทถกคนเข้าใจตัวพนักงานเหมือนกัน อยากให้ทุกคนให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องดังกล่าวทางเมืองพัทยา ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้ให้ทาง นางกาญจนา ตันเจริญ มาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับเหตการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เจ้าหน้าที่แขวงเกาะล้าน เมืองพัทยา เพื่อดำนินการในขั้นตอนต่อไป….

หลังจากที่ เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กําหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2568 ระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กําหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2568 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยกำหนดให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา , วันวิสาขบูชา , วันอาสาฬหบูชา , วันเข้าพรรษา , วันออกพรรษา เฉพาะสนามบิน โรงแรม และสถานบริการตามกฎหมาย และสถานประกอบการคล้ายสถานบริการในพื้นที่ท่องเที่ยว นั้น ด้าน นายดำรงเกียรติ พินิจการ ผู้บริหาร Hollywood Pattaya เปิดเผยว่า หลังจากที่มีประกาศปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการกลางคืนเป็นอย่างมาก หลังรอค่อยมานาน 20 ปี ซึ่งประกาศดังกล่าวจะมาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงที่นักท่องเที่ยวกำลังลดลง ด้วยหากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงนี้แล้วมีความต้องการจะไปท่องเที่ยวหรือเดินดูในย่านสถานบันเทิงกลางคืนและย่านไนท์ไลฟ์แล้วมีการบปิดให้บริการก็จะทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวัง ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณรัฐบาลชุดนนี้ที่สานฝันให้ผู้ประกอบการจนเป็นจริง ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการมีรายได้มากขึ้น ส่งผลไปถึงพนักงานมี่รายการไปเลี้ยงดูครอบครัว ส่วนในเรื่องขอมาตรการในการป้องกันทั้งเรื่องของเยาวชนและความปลอดภัยนั้น ที่ผ่านมาผู้ประกอบการมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัด อกีทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกครองก็ได้มีการออกตรวจสอบตามสถานประกอบอย่างต่อเนื่อง ทั้งการคัดกรองเรื่องอขงเด็กที่มาใช้บริการที่ห้ามอายุต่ำกว่า 20 ปี การใช้ยาเสพติดและเรื่องของอาวุธปืน ซึ่งถือเป็น 3 เรื่องหลักที่ผู้ประกอบการมีการปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด ส่วนข้อกังวลเรื่องของความปลอดภัยเมื่อมีการเปิดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่แล้ว จะส่งผลกระทบต่อสังคมในบนท้องถนน ปัญหาตรงนี้ได้มีการจัดที่พักให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ พร้อมจัดจุดรับรถที่มีเครื่องตรวจเช็คปริมาณแอลกอฮอล์ให้กับลูกค้าที่คนก่อนกลับ หากมีปริมาณแอลกอฮอล์ เกินก็จะเรียกรถบริการสาธารณะไปส่ง หรือ จัดพนักงานขับรถไปส่งถึงที่พัก นายดำรงเกียรติ กล่าวเสริมอีกว่า ทั้งนี้อยากฝากขอเรียกร้องหลังได้รับเสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 17.00น. ทำให้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ส่วนตัวมองว่าหากขอกฎหมายดังกล่าวยกเลิกได้จะส่งผลดีในภาพรงมการท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่เข้าใจว่าทำไหมถึงไม่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ แต่หากอยากจะดำเนินการเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนนั้น ควรจะไปบังคับใช้บนเส้นถนนเมนหลัง หรือมอเตอร์เวย์จะเป็นการดำเนินตามดป้าหมายมากกว่า ขณะที่ นางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ประกาศปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ ที่เกิดขึ้นจะส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองพัทยามากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อถึงช่วงวันพระนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวจะพบกับสถานประกอบการที่ปิดให้บริการ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีที่จะไปนั่งพักผ่อนหรือท่องเที่ยว แต่ในวันนี้รัฐบาลได้มีการปลดล็อกทำให้ตอบโจทย์เมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ทำให้ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการดีรับผลดีจากการปลอล็อก อีกทั้งผู้ประกอบการก็ไม่ต้องเกดิความสับสนในเรื่องของการเปิด-ปิดการให้บริการในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยที่ผ่านมาผู้ประกอบการได้มีการจัดมาตรที่เข้มข้น ซึ่งได้มีการรณรงค์มาอย่างต่อเนื่องเรื่อง และเมื่อสามารถเปิดให้บริการจำหน่ายแอลกอฮอล์เพิ่มในวันพระการป้องกันและดูแลความปลอดภัยย่อมไม่ใช้ปัญหาที่ผู้ประกอบการจะดำเนินการ ด้วยผู้ประกอบการมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบของภาครัฐมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องเด็ก ยาเสพติดและอาวุธ ทั้งนี้อยากขอบคุณรัฐบาลที่ฟังเสียงของผู้ประกอบการสถานบันเทิง ในส่วนของ Mr.Giannorsi Sehastien นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส เปิดเผยถึงความรู้สึกเกี่ยวกับการปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันพระใหญ่ ว่า เป็นเรื่องดีที่จะทำให้มีที่ไปท่องเที่ยวไม่ใช่ว่าเมื่อถึงวันพระใหญ่แล้วสถานบันเทิงปิดหมดทำให้ไม่รู้จะทำอะไรหรือไปท่องเที่ยวพักผ่อนได้ที่ไหน แม้ตัวเองจะเป็นชาวต่างชาติก็ให้เกียรติคนไทยและประเทศไทย รวมถึงคนที่นับถือศาสนาพุทธ แต่ด้วยตัวเองเป็นนักท่องเที่ยวและไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ เมื่อถึงวันพระใหญ่ก็เกิดความมึนงงที่ต้องติดไปกับข้อกฎหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ แต่มาวันนี้ทราบว่ารัฐบาลไทยมีการปลดล็อกให้สถานบันเทิงจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ก็รู้สึกดีใจ ทำให้สามารถออกไปท่องเที่ยวและไท่ต้องกังวลว่าจะถึงวันพระจะต้องรีบกินรีบกลับ

คาเฟ่ม้าหมุนกลางหุบเขา เปิดใหม่พัทยา🌷🌸✨ เครื่องดื่มราคาดีงาม วิวสวยแบบตะโกน!! The Chalet cafe' ⛲️🎠✨ นึกว่าอยู่เขาใหญ่ สวยมาก สวยแบบจะบ้า แอดจัดมัทฉะลาเต้ มาแค่ 70.- เอง! มุมถ่ายรูปคือเยอะสับ ที่นั่งมีทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ มู้ดดีมาก เต็มสิบไม่หัก ไปช่วงเช้าวันธรรมดา เดินถ่ายรูปชิลมากจ้าา 📍 พิกัด : The Chalet Cafe, Whisdom Valley เขาไม้แก้ว ⏰ เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น. https://maps.app.goo.gl/tXbigtmoqQa6wYT39