ปปช.ลงพื้นที่ ติดตามคืบหน้าสนามกีฬาภาคตะวันออก หลังสร้างมาราธอนยาวนาน 15 ปี ผอ.กองช่างพัทยาเผย อาจล้าช้าจากกำหนด 2-3 เดือน เมื่อเวลา 10.36 น. วันที่ 26 มิถุนายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำโดยนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช.ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี บนเนื้อที่ 371 ไร่ ความจุขนาด 20,000 ที่นั่ง ภายใต้งบประมาณดำเนินการกว่า 774 ล้านบาท ที่มีการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2551 แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ซ้ำยังมีสภาพคล้ายถูกปล่อยทิ้งร้าง ที่สำคัญอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในอาคารยังเกิดการชำรุดเสียหาย ทั้งที่โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะใช้เป็นศูนย์รวมการแข่งขันกีฬาทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศภายใต้มาตรฐานสากล ตามแผนงานก่อสร้างเดิมตั้งแต่ปี 2551-2560 นั้น โดยนายบุญเทียน จันสุข ผู้อำนวยการสำนักช่างเมืองพัทยา ให้การต้อนรับ และพาเดินชมพื้นที่ต่างๆ ของสนามกีฬา รวมถึงให้ข้อมูลการก่อสร้างในหลายส่วน และจุดที่เร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ โดยเนื้องานตามสัญญา โครงสร้างทางเข้าอัฒจันทร์ประธาน โครงสร้างทางลาดและบันไดขึ้นอัณจันทร์ประธาน โครงสร้างเหล็กรับแผ่นหลังคา และงานแผ่นหลังคา โครงสร้างทางเดินใต้หลังคาอัฒจันทร์ งานทาสีผนังและฝ้าภายในห้องต่างๆในอาคาร (ไม่รวมภายนอก) งานทาสีที่นั่งอัฒจันทร์ งานห้องขายตั๋ว งานระบบไฟฟ้าสื่อสาร (ซ่อมแขบของเดิมและติดตั้งเพิ่มเดิม) งานซ่อมระบบไฟฟ้าเสาไฟส่องสว่างสนามกีฬา งานระบบเสียง โทรศัพท์ และกล้องวงจรปิด งานระบปรับอากาศ (ซ่อมแซมของเดิม) งานระบบแจ้งเหตุดับเพลิง (ซ่อมแซมของเดิม) นายบุญเทียน จันสุข ผู้อำนวยการสำนักช่างเมืองพัทยา ยัง เปิดเผยอีกว่าในตัวโครงสร้างนั้นน่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2568 อย่างแน่นอน แต่อาจจะมีบางจุดที่อาจจะมีความล่าช้า โดยมีปัจจัยสาเหตุของความล่าช้า เช่น สภาพอากาศของเมืองพัทยาที่เข้าฤดูฝนเร็วกว่าปกติ จึงมีบางจุดที่ไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของชั้นหินที่จะทำระบบระบายน้ำ ซึ่งต้องใช้เครื่องจักรชนิดเก่า เพราะเป็นเขตชุมชนไม่สามารถใช้การระเบิดได้ ในส่วนนี้ยอมรับว่าน่าจะเกิดความล่าช้าอย่างแน่นอน โดยประมาณสองถึงสามเดือน ด้านนายสาโรจน์ เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าของโครงการสนามสนามกีฬาภาคตะวันออกแห่งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีประเด็นว่าสนามกีฬาแห่งนี้ มีการลงทุนก่อสร้างไปแล้วงานหยุดชะงัก ซึ่งทางภาคประชาชนก็ไม่สบายใจที่ใช้งบประมาณแผ่นดินไปแล้ว แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยเมื่อวานนี้ตนได้มีการพูดคุยกับนายกเมืองพัทยาถึงการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2551 แต่มีความล่าช้าหลายประการ ทั้งศักยภาพของผู้รับจ้าง โรคระบาด และปัญหาทางเทคนิคในพื้นที่ก่อสร้างเยอะ ขณะที่ สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดชลบุรี และ ป.ป.ช.ภาค 2 ได้ประสานการดำเนินการตั้งแต่ปี 2566 เรื่อยมา พร้อมบูรณาการร่วมกับภาคประชาชน ในการตรวจสอบการบริหารจัดการงบประมาณภาครัฐก่อสร้างทุกภาคส่วน รวมถึงผู้รับเหมา และภาคเอกชน โดยเมื่อปีที่แล้วจนถึงปีนี้ที่เราติดตาม มีความเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก จึงเป็นนิมิตหมายอันดีที่ได้รับการชี้แจงจากเมืองพัทยา และผู้รับจ้าง ซึ่งเขายืนยันว่า งานภาพใหญ่ตามสัญญาโครงการที่จะทำถึงในช่วงเดือนธันวาคมปี 2568 น่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญา โดยจะเหลือเพียงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในเรื่องของการปรับภูมิทัศน์ และการติดตั้งเก้าอี้สนามตามสัญญา ทั้งนี้ ป.ป.ช. ได้พยายามเน้นย้ำในเรื่องของการป้องปราม และเป็นการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งเราไม่ได้บอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการทุจริต แต่เราเข้ามาดูเพื่อหาว่าปัญหาจริงๆ คืออะไร จึงได้เชิญสื่อมวลชนมาร่วมติดตามหาปัญหาที่แท้จริง และสะท้อนข้อเท็จจริงให้กับประชาชน และมีความหวังว่าจะเสร็จสมบูรณ์และเปิดใช้งานได้ตามความมุ่งหวังของโครงการที่ใช้งบประมาณแผ่นดินในการก่อสร้าง นายสาโรจน์ กล่าวอีกว่า ได้พูดคุยกับนายกเมืองพัทยาถึงความกังวลในการบริหารจัดการหลังจากที่สนามเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทั้งเรื่องของการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งไม่ใช่สนามแข่งเพียงอย่างเดียว ยังรวมถึงสนามซ้อมที่ต้องใช้การดูแลวัสดุอุปกรณ์ โดยนายกและผู้บริหารเมืองพัทยา ได้ตั้งประเด็นนี้ไว้เป็นโจทย์ที่จะได้มีการวางแผนในการบริหารจัดการต่อไป เพราะอาคารก่อสร้างขนาดใหญ่มักจะมีปัญหาในเรื่องพวกนี้ตามมา ดังนั้นจะต้องมีแผนการรองรับ นอกจากนี้ยังลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำซอยเทพประสิทธิ์ 9 เชื่อมชายหาดจอมเทียนเมืองพัทยา ซึ่งมีงบประมาณในการดำเนินโครงการ 190 ล้านบาท ซึ่งก็ยังไม่แล้วเสร็จ ยังคงปิดเส้นทางจราจร มีเพียงรถจักรยานยนต์ เท่านั้นที่สามารถสัญจรผ่านไปได้