นายกอิ๊ง เปิดประชุมหน่วยยามชายฝั่งอาเซียน ไร้เงากัมพูชาเข้าร่วม เมื่อเวลา 11.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี /...
นายกอิ๊ง เปิดประชุมหน่วยยามชายฝั่งอาเซียน ไร้เงากัมพูชาเข้าร่วม เมื่อเวลา 11.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชมหน่วยยามฝั่งอาเซียน ปี พ.ศ.2568 (ASEAN Coast Guard Forum 2025 : ACF 2025) โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (นปท.) ร่วมคณะในครั้งนี้ด้วย โดยมี พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ/รอง ผอ.ศรชล. และ พลเรือเอก ไพโรจน์ เพื่องจันทร์ เสนาธิการ ทหารเรือ/เลขาธิการ ศรชล. ให้การต้อนรับ ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อ.บางละมุง จว.ชลบุรี ขณะที่เจ้าภาพ จัดการประชุม มี ศูนย์อำนวยการรักษา ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) ศรชล.(Thai Martime Enforcement Command Center. Thai-MECC) และ United Nations of Drues and Crime (UNODC) เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุม ACF 2025 โดยประเทศสมาชิกอาเขียน ได้ส่งหน่วยงานยามฝั่ง หน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายทางทะเล ตลอดจนผู้สังเกตการณ์ เข้าร่วมประชุมฯ อีก 9 หน่วยงาน ได้แก่ บรูไน / Royal Brunei Police Force (RBPF), อินโดนิเซีย / Indonesia Maritime Security Agency (Badan Keamanan Laut Republik Indonesia: Bakamla RI), สปป.ลาว Embassy of Laos People's Democratic Republic, มาเลเซีย Malaysian Martime Enforcement Apency (MMEA), เมียนมาร์ Mvanmar Coast Guard, พิลิปินส์ Phitippine Coast Guard (PCG), สิงคโปร์ Sineapore Police Coast Guard, เวียดนาม Vietnam Coast Guard (VCG) , ติมอร์ เลสเต The Naval Component of the Timor-Leste Defence Force (F-FDTL) โดยมี UNODC เป็นผู้สนับสนหลักของจัดการประชมฯ สาระสำคัญของการประชุม ACF 2025 คือ "Fostering Maritime Safety, Security, and Prosperity in ASEAN" หรือ "การส่งเสริม ความปลอดภัย ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองทางทะเสในอาเซียน ขณะที่การประชุมในครั้งนี้ขาด กลุ่มสมาชิกที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมไปหนึ่งประเทศ คือประเทศ กัมพูชา หลังจากเปิดการประชุม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) ได้นำคณะกลุ่มสมาชิก รับชมการฝึกการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล (SAR) ซึ่งจัดขึ้นในกลางอ่าวพัทยา โดยสมมุติเหตุการณ์เครื่องบินโดยสาร เดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา - มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต และได้หายไปจากจอเรดาร์ ก่อนจะพบว่าเครื่องบินโดยสารตกลงกลางทะเล โดย ศรชล. กองทัพเรือ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้ง กรมเจ้าท่า , ตำรวจน้ำ (CIB) , กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง , กรมการแพทย์ฉุกเฉิน , โรงพยาบาล , และหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ระดมสรรพกำลัง เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที ด้านพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ/รอง ผอ.ศรชล. เปิดเผยหลังประชุม ว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมกันสร้างเอกสารคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานร่วม การฝึกซ้อมร่วม และช่องทางการสื่อสารเฉพาะระหว่างศูนย์ประสานงานการกู้ภัยทางทะเล เป็นหัวใจสำคัญ ทั้งส่งเสริมการบูรณาการข้อมูลและการสื่อสารข้ามพรมแดน พัฒนาขีดความสามารถร่วมในด้านการกู้ภัยทางทะเล สร้างมาตรฐานสากลร่วมในด้านความปลอดภัยและการจัดการภัยพิบัติทางทะเลทอีกทั้งสนับสนุนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในระดับภูมิภาคและเสริมสร้างความเชื่อมั่นระหว่างประเทศเพื่อการจัดการภัยที่ยั่งยืน ต่อไป อย่างไรก็ตามการมาประชุมในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ไม่ได้ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์แต่อย่างใด…..