WWW.FACEBOOK.COM
ขยะเกาะล้านกว่าแสนตันปัญหาเรื้อรังทำลายการท่องเที่ยวพัทยา มพย.เร่งสร้างเตาเผาหวังกำจัดกลางปี 68 ปัญหานี้เกิดขึ้นมาแล้ว...
ขยะเกาะล้านกว่าแสนตันปัญหาเรื้อรังทำลายการท่องเที่ยวพัทยา มพย.เร่งสร้างเตาเผาหวังกำจัดกลางปี 68 ปัญหานี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายปี เป็นข่าวในสื่อสารมวลชนหลายแขนงหลายต่อหลายครั้ง เพราะถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างรุนแรง ซึ่งหนีไม่พ้นคือ “ปัญหาขยะล้นเกาะล้าน” หลังพบว่าปัญหานี้เป็นผลสืบเนื่องมาเป็นนานหลายปี จากปริมาณขยะที่เริ่มตกค้างตั้งแต่ปี 59 กว่า 3 หมื่นตัน จนถึงปัจจุบันก็มีการสะสมจนเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วถึงกว่า 7-8 หมื่นตันเข้าไปแล้ว กระทั่งมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนและหลายฝ่ายให้เมืองพัทยาเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะหากปล่อยไว้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแหล่งสุดท้ายที่สำคัญแห่งนี้จะถูกย่ำยีและเสื่อมโทรมลงในที่สุด ด้วยปัญหาค้างเก่าอย่างการบุกรุกที่สาธารณะ การถือครองที่ดินที่ไม่กรรมสิทธิ์ การก่อสร้างอาคารที่พักรีสอร์ทรุกทะเล การขาดแคลนน้ำดิบ และปัญหาโครงการใหญ่ที่ถูกทิ้งรกร้างไว้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขแต่อย่างใด ปัญหาบนเกาะล้านนับวันจะยิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์และเป็นกระแสสังคมหนักมากขึ้น ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นชุมชนบ้านเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จะร้องเรียนให้เข้าไปตรวจ สอบปัญหาขยะมูลฝอยบนพื้นที่เกาะล้านที่ปัจจุบันพบว่ามีปัญหาความรุนแรงมาก จากพบว่ามีปริมาณขยะถูกกองสุมทิ้งไว้จำนวนหลายหมื่นตัน บริเวณเขานม หน้าหาดแสม สร้างปัญหามลพิษทางกลิ่นและภาพลักษณ์ที่เสียหายในพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แต่การบริหารจัดการแก้ไขยังไม่มีประสิทธิภาพและมีแนวทางที่ชัดเจนมากนัก ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีกองขยะกองสุมสะสมรวมอยู่เป็นจำนวนมากจริงและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับชุมชนบ้านเกาะล้านอยู่ห่างจากฝั่งเมืองพัทยาประมาณ 7.5 กม.มีพื้นที่รวมกว่า 3,000 ไร่ มีจำนวนประชากรกว่า 2,000 คน ปัจจุบันถือเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางเข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมากเฉลี่ยวันละ 1.5-2 หมื่นคนหรือกว่า 5 ล้านคนต่อปี โดยมีชายหาดที่สวยงามจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ หาดตายาย หาดทองหลาง หาดตาแหวน หาดสำราญ หาดเทียน หาดแสม และหาดสังวาลย์ แต่ด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวที่มีมากขึ้น ทำให้ระบบสาธารณูปโภคที่รองรับมีปัญหาอีกทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คอยกำกับดูแลก็มีอัตรากำลังที่จำกัดจึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องของผลกระทบสิ่งแวดล้อม อย่างน้ำเสียและขยะมูลฝอย โดยในส่วนของปัญหาขยะมูลฝอยนั้นที่ผ่านมามีปริมาณขยะเฉลี่ยอยู่วันละ 15-20 ตัน ซึ่งจะมีการขนถ่ายโดยเรือบรรทุกจากเกาะสู่ฝั่งเพื่อกำจัดประมาณวันละ 20-24 ตัน แต่ที่ผ่านมาสภาพของเรือขนถ่ายเกิดการชำรุดจนทำให้ไม่สามารถใช้การได้ทำให้ในส่วนของปริมาณขยะสะสมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องตามอัตราปริมาณของนักท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละกว่า 50 ตัน จึงส่งผลให้เกิดปัญหาขยะตกค้างไม่สามารถขนถ่ายไปไหนได้ เป็นเหตุให้จุดพักขยะในพื้นที่จำนวน 12 ไร่ บริเวณเขานม มีปัญหาตกค้างและสะสมขึ้นเรื่อยๆ จนมีปัญหารวมแล้วกว่า 70,000 ตันในปัจจุบัน เมื่อปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น สภาเมืองพัทยาจึงอนุมัติงบประมาณจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาจากสถานบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ เข้ามาทำการศึกษาและวาง แผนแม่บทในการแก้ไข โดยมีแนวคิดในการจัดสร้างเตาเผาขยะขนาดมาตรฐานเพื่อจัดการปัญหาขยะให้หมดสิ้นไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายจากส่วนกลางถึงปัญหาขยะว่า “เกิดที่ไหนกำจัดที่นั่น” จึงมีผลสรุปว่าจะจัดทำเตาเผาขยะไร้มลพิษจำนวน 2 เตาเพื่อเผาขยะตกค้างและขยะใหม่ให้หมดไป ซึ่งผลการศึกษานี้ผ่านการทำประชาพิจารณ์การออกแบบและวิธีการบริหารจัดการ ก่อนจะทำหนังสือขอความเห็นชอบตามประกาศกระทรวงมหาดไทย โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนไม่ใช้งบประมาณหลวงในการดำเนินการ กระทั่งผ่านความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโครงการการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยชุมชน ด้วยวิธีเผาทำลายบนพื้นที่เกาะล้านแบบครบวงจรที่มีระยะเวลา 25 ปี ซึ่งจากผลการศึกษากำหนดค่าใช้จ่ายและผลตอบแทนทางการเงินของโครงการศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยชุมชนด้วยวิธีเผาทำลาย มีอัตราค่ากำจัดขยะมูลฝอยอยู่ที่ตันละ 1,900 บาท และปรับขึ้น 10 % ทุก 5 ปี โดยต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายเกินกว่าหนึ่งปีงบประมาณ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2564-2588 รวม 25 ปี เป็นเงินทั้งสิ้น 934,557,370 บาท ทั้งนี้โครงการเตาเผาขยะเกาะล้านแบบครบวงจรจะใช้ระบบจะลำเลียงฉีดแบบบดย่อย ที่มีการลดความชื้นและระบบผสม โดยการลำเลียงขยะจะไปที่ห้องเผาไหม้แบบแก๊สซิฟิเคชัน (ควบคุมอากาศ 2 ห้องเผา ห้องเผาที่ 1 เผาขยะที่อณุหภูมิไม่ต่ำกว่า 600 องศาเซลเซียส ห้องเผาที่ 2 เผาขยะที่อณุหภูมิไม่ต่ำกว่า 800 องศาเซลเซียส ปัจจุบันเกาะล้านมีขยะตกค้างอยู่ประมาณ 7 หมื่นตัน ซึ่งผู้รับจ้างจะต้องทำการกำจัดทั้งขยะเก่าและขยะใหม่ ไปพร้อมๆกัน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10 ปี จึงจะสามารถกำจัดขยะตก ค้างให้หมดไปได้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่าปัญหาขยะบนชุมชนบ้านเกาะล้านเป็นปัญหาที่สะสมมามายาวนานตั้งแต่ปี 2556 ด้วยเหตุจากไม่สามารถบรรทุกขยะใส่เรือเพื่อนำมาทิ้งฝั่งเมืองพัทยาได้ เพราะสภาพเรือขนส่งที่เก่าและชำรุด ทำให้ชุมชนบ้านเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง มีปริมาณขยะสะสมจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของการจัดสร้างเตาเผขยะขึ้นทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้ดำเนิน การมาระยะหนึ่งแล้ว และจะมีการทดลองระบบในส่วนของการคัดแยกขยะ รวมถึงระบบของเตาเผาขยะในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม และจะเป็นการกำจัดขยะทั้งขยะเก่าที่ฝังกลบอยู่ที่นี่ประมาณแสนกว่าตันและขยะใหม่ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามต้องรอดูในการดำเนินการจริง เพราะจะต้องเอาขยะที่เกิดขึ้นในประจำวันซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล โดยพื้นฐานอยู่ที่ประมาณ 10-25 ตัน เพราะฉะนั้นที่เหลือก็จะเอาขยะเก่าที่มีการฝังกลบไปกำจัด โดยหลังจากกำจัดแล้วจะมีขยะ 2 ประเภท คือ ประเภทที่ใช้ไม่ได้แล้วก็จะต้องก็ต้องเอาไปใช้ในการฝังกลบต่อไป ส่วนประเภทที่ใช้ได้ก็จะเป็นสมบัติของเมืองพัทยา ซึ่งต้องพิจารณาอีกทีว่าจะทำเป็นอิฐหรือทำอะไรที่จะเป็น CSR ให้กับประ ชาชนต่อไปในอนาคต..ขยะเกาะล้านกว่าแสนตันปัญหาเรื้อรังทำลายการท่องเที่ยวพัทยา มพย.เร่งสร้างเตาเผาหวังกำจัดกลางปี 68 ปัญหานี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายปี เป็นข่าวในสื่อสารมวลชนหลายแขนงหลายต่อหลายครั้ง เพราะถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างรุนแรง ซึ่งหนีไม่พ้นคือ “ปัญหาขยะล้นเกาะล้าน” หลังพบว่าปัญหานี้เป็นผลสืบเนื่องมาเป็นนานหลายปี จากปริมาณขยะที่เริ่มตกค้างตั้งแต่ปี 59 กว่า 3 หมื่นตัน จนถึงปัจจุบันก็มีการสะสมจนเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วถึงกว่า 7-8 หมื่นตันเข้าไปแล้ว กระทั่งมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนและหลายฝ่ายให้เมืองพัทยาเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะหากปล่อยไว้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแหล่งสุดท้ายที่สำคัญแห่งนี้จะถูกย่ำยีและเสื่อมโทรมลงในที่สุด ด้วยปัญหาค้างเก่าอย่างการบุกรุกที่สาธารณะ การถือครองที่ดินที่ไม่กรรมสิทธิ์ การก่อสร้างอาคารที่พักรีสอร์ทรุกทะเล การขาดแคลนน้ำดิบ และปัญหาโครงการใหญ่ที่ถูกทิ้งรกร้างไว้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขแต่อย่างใด ปัญหาบนเกาะล้านนับวันจะยิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์และเป็นกระแสสังคมหนักมากขึ้น ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นชุมชนบ้านเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จะร้องเรียนให้เข้าไปตรวจ สอบปัญหาขยะมูลฝอยบนพื้นที่เกาะล้านที่ปัจจุบันพบว่ามีปัญหาความรุนแรงมาก จากพบว่ามีปริมาณขยะถูกกองสุมทิ้งไว้จำนวนหลายหมื่นตัน บริเวณเขานม หน้าหาดแสม สร้างปัญหามลพิษทางกลิ่นและภาพลักษณ์ที่เสียหายในพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แต่การบริหารจัดการแก้ไขยังไม่มีประสิทธิภาพและมีแนวทางที่ชัดเจนมากนัก ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีกองขยะกองสุมสะสมรวมอยู่เป็นจำนวนมากจริงและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับชุมชนบ้านเกาะล้านอยู่ห่างจากฝั่งเมืองพัทยาประมาณ 7.5 กม.มีพื้นที่รวมกว่า 3,000 ไร่ มีจำนวนประชากรกว่า 2,000 คน ปัจจุบันถือเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางเข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมากเฉลี่ยวันละ 1.5-2 หมื่นคนหรือกว่า 5 ล้านคนต่อปี โดยมีชายหาดที่สวยงามจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ หาดตายาย หาดทองหลาง หาดตาแหวน หาดสำราญ หาดเทียน หาดแสม และหาดสังวาลย์ แต่ด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวที่มีมากขึ้น ทำให้ระบบสาธารณูปโภคที่รองรับมีปัญหาอีกทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คอยกำกับดูแลก็มีอัตรากำลังที่จำกัดจึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องของผลกระทบสิ่งแวดล้อม อย่างน้ำเสียและขยะมูลฝอย โดยในส่วนของปัญหาขยะมูลฝอยนั้นที่ผ่านมามีปริมาณขยะเฉลี่ยอยู่วันละ 15-20 ตัน ซึ่งจะมีการขนถ่ายโดยเรือบรรทุกจากเกาะสู่ฝั่งเพื่อกำจัดประมาณวันละ 20-24 ตัน แต่ที่ผ่านมาสภาพของเรือขนถ่ายเกิดการชำรุดจนทำให้ไม่สามารถใช้การได้ทำให้ในส่วนของปริมาณขยะสะสมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องตามอัตราปริมาณของนักท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละกว่า 50 ตัน จึงส่งผลให้เกิดปัญหาขยะตกค้างไม่สามารถขนถ่ายไปไหนได้ เป็นเหตุให้จุดพักขยะในพื้นที่จำนวน 12 ไร่ บริเวณเขานม มีปัญหาตกค้างและสะสมขึ้นเรื่อยๆ จนมีปัญหารวมแล้วกว่า 70,000 ตันในปัจจุบัน เมื่อปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น สภาเมืองพัทยาจึงอนุมัติงบประมาณจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาจากสถานบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ เข้ามาทำการศึกษาและวาง แผนแม่บทในการแก้ไข โดยมีแนวคิดในการจัดสร้างเตาเผาขยะขนาดมาตรฐานเพื่อจัดการปัญหาขยะให้หมดสิ้นไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายจากส่วนกลางถึงปัญหาขยะว่า “เกิดที่ไหนกำจัดที่นั่น” จึงมีผลสรุปว่าจะจัดทำเตาเผาขยะไร้มลพิษจำนวน 2 เตาเพื่อเผาขยะตกค้างและขยะใหม่ให้หมดไป ซึ่งผลการศึกษานี้ผ่านการทำประชาพิจารณ์การออกแบบและวิธีการบริหารจัดการ ก่อนจะทำหนังสือขอความเห็นชอบตามประกาศกระทรวงมหาดไทย โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนไม่ใช้งบประมาณหลวงในการดำเนินการ กระทั่งผ่านความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโครงการการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยชุมชน ด้วยวิธีเผาทำลายบนพื้นที่เกาะล้านแบบครบวงจรที่มีระยะเวลา 25 ปี ซึ่งจากผลการศึกษากำหนดค่าใช้จ่ายและผลตอบแทนทางการเงินของโครงการศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยชุมชนด้วยวิธีเผาทำลาย มีอัตราค่ากำจัดขยะมูลฝอยอยู่ที่ตันละ 1,900 บาท และปรับขึ้น 10 % ทุก 5 ปี โดยต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายเกินกว่าหนึ่งปีงบประมาณ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2564-2588 รวม 25 ปี เป็นเงินทั้งสิ้น 934,557,370 บาท ทั้งนี้โครงการเตาเผาขยะเกาะล้านแบบครบวงจรจะใช้ระบบจะลำเลียงฉีดแบบบดย่อย ที่มีการลดความชื้นและระบบผสม โดยการลำเลียงขยะจะไปที่ห้องเผาไหม้แบบแก๊สซิฟิเคชัน (ควบคุมอากาศ 2 ห้องเผา ห้องเผาที่ 1 เผาขยะที่อณุหภูมิไม่ต่ำกว่า 600 องศาเซลเซียส ห้องเผาที่ 2 เผาขยะที่อณุหภูมิไม่ต่ำกว่า 800 องศาเซลเซียส ปัจจุบันเกาะล้านมีขยะตกค้างอยู่ประมาณ 7 หมื่นตัน ซึ่งผู้รับจ้างจะต้องทำการกำจัดทั้งขยะเก่าและขยะใหม่ ไปพร้อมๆกัน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10 ปี จึงจะสามารถกำจัดขยะตก ค้างให้หมดไปได้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่าปัญหาขยะบนชุมชนบ้านเกาะล้านเป็นปัญหาที่สะสมมามายาวนานตั้งแต่ปี 2556 ด้วยเหตุจากไม่สามารถบรรทุกขยะใส่เรือเพื่อนำมาทิ้งฝั่งเมืองพัทยาได้ เพราะสภาพเรือขนส่งที่เก่าและชำรุด ทำให้ชุมชนบ้านเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง มีปริมาณขยะสะสมจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของการจัดสร้างเตาเผขยะขึ้นทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้ดำเนิน การมาระยะหนึ่งแล้ว และจะมีการทดลองระบบในส่วนของการคัดแยกขยะ รวมถึงระบบของเตาเผาขยะในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม และจะเป็นการกำจัดขยะทั้งขยะเก่าที่ฝังกลบอยู่ที่นี่ประมาณแสนกว่าตันและขยะใหม่ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามต้องรอดูในการดำเนินการจริง เพราะจะต้องเอาขยะที่เกิดขึ้นในประจำวันซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล โดยพื้นฐานอยู่ที่ประมาณ 10-25 ตัน เพราะฉะนั้นที่เหลือก็จะเอาขยะเก่าที่มีการฝังกลบไปกำจัด โดยหลังจากกำจัดแล้วจะมีขยะ 2 ประเภท คือ ประเภทที่ใช้ไม่ได้แล้วก็จะต้องก็ต้องเอาไปใช้ในการฝังกลบต่อไป ส่วนประเภทที่ใช้ได้ก็จะเป็นสมบัติของเมืองพัทยา ซึ่งต้องพิจารณาอีกทีว่าจะทำเป็นอิฐหรือทำอะไรที่จะเป็น CSR ให้กับประ ชาชนต่อไปในอนาคต..
0 Commenti 0 condivisioni 12 Views
พัทยาโซเชียล Pattaya.Social https://pattaya.social