WWW.FACEBOOK.COM
มือปราบฉลามชลเข้ม ระดมจับรถสวมทะเบียนทั่วเมืองชลบุรี รวบ 2 หนุ่มขับรถเถื่อนสารภาพซื้อจากตลาดมืด
มือปราบฉลามชลเข้ม ระดมจับรถสวมทะเบียนทั่วเมืองชลบุรี รวบ 2 หนุ่มขับรถเถื่อนสารภาพซื้อจากตลาดมืด เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดชผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.คงกฤชเลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผบก.ป.ปรก.บก.ทล. พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.3 บก.ทล. ,พ.ต.ท.ตุลยวัต เมืองทอง รอง ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สวญ.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ว่าที่ พ.ต.ต.บดี ดวนพล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., ร.ต.อ.ภิเชศ นาเมืองรักษ์ รอง สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., ร.ต.ท.ยุทธพงษ์ สอนวินิจฉัย, ร.ต.ต.พิเชษฐ์ วรวิสุทธิวงศ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.ได้นำกำลังออกตะเวนตรวจสอบ และจับกุมรถยนต์สวมทะเบียน รถยนต์ที่ไม่พบข้อมูลในระบบ หรือรถเถื่อน รถฟลุดจำนำ ในพื้นที่เขตรับผิดชอบจังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นการป้องปราม การลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งยาเสพติด อาวุธ รวมไปถึงแรงงานต่างด้าว สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ข้อหา “มีและใช้เอกสารราชการปลอม” ตามกฎหมายมาตรา 268 และรถยนต์ของกลางไว้ได้ 2 คัน โดยได้กระจายกำลังไปตามจุดต่างๆแล้วซุ่มตรวจรถยนต์ต้องสงสัย ที่มีหมวดฟมายเลขทะเบียนที่ไม่ตรงกับตัวรถ มีรถยนต์ถึงสองคันใช้ทะเบียนเดียวกัน คือทะเบียน 3กง 3457 กรุงเทพมหานคร เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้าและนิสสัน แต่จากการตรวจสอบในระบบ ระบุว่ารถยนต์ที่จดทะเบียนนั้นคือ รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า ส่วนรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสันนั้นต้องสงสัยว่าเป็นรถที่นำมาสวมทะเบียน กระทั่งพบรถยนต์ยี่ห้อ NISSAN รุ่น ALMERA สีดำ หมายเลขทะเบียน 3กง 3457 กรุงเทพมหานคร มีนายธีรวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี เป็นคนขับ เมื่อตรวจสอบพบว่าตัวรถไม่ตรงกับข้อมูลในระบบ เลขตัวถังรถเป็นของรถยน์เก๋งโตโยต้า วีออส สีเทา และแผ่นป้ายทะเบียนนั้นเป็นของปลอม จากการสอบสวน เจ้าตัวจึงยอมรับสารภาพว่าซื้อรถเถื่อนคันนี้มาจากตลาดมืด ผ่านเพจ ซื้อขายรถหลุดจำนำ เมื่อประมาณปลายปี 2567 ในราคา 60,000 บาท คันที่สองเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ หมายเลขทะเบียน ฐก 2305 กรุงเทพมหานคร มีนายสันติ (สงวนนามสกุล) เป็นคนขับ จากการตรวจสอบตัวรถพบว่าเป็นตัวถังรถยี่ห้อเดียวกันหมายเลขทะเบียน กน 1435 กำแพงเพชร ส่วนผู้ครอบครอง คือนายนัส(นามสมมุติ) เมื่อเจ้าหน้าที่ติดต่อสอบถามนายนัส(นามสมมุติ) ให้การยอมรับว่าได้นำรถไปจำนำให้กับบุคคลหนึ่งในจังหวัดพิจิตร ต่อมาจะทำการไถ่ถอน แต่ไม่สามารถติดต่อผู้รับจำนำได้ ส่วนป้ายทะเบียนตรวจสอบแล้วพบว่าลักษณะและข้อมูลไม่เป็นตามที่กรมขนส่งทางบกกำหนด สอบสวนเจ้าตัวจึงยอมรับว่า ตนต้องการซื้อรถในราคาถูก จึงให้ญาติจัดหามาให้พร้อมแผ่นป้ายทะเบียนและแผ่นป้ายภาษี เมื่อปี 2567 ในราคา 70,000 บาท เบื้องต้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 ฐานใช้เอกสารราชการปลอม ซึ่งความผิดฐานปลอมเอกสารราชการหรือใช้เอกสารราชการปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง100,000 บาท พร้อมยึดรถของกลางไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.กล่าวอีกว่าในข้อมูลเชิงลึกนั้นทราบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพตระเวนจำหน่ายรถผิดกฎหมาย โดยตั้งราคาที่ต่ำกว่าราคาจริงในพื้นที่ชลบุรี เนื่องจาก เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมและมีผู้ใช้รถจำนวนมาก และนำรถที่ซื้อมาจากตลาดมืดมากระทำความผิดในรูปแบบอาทิเช่น ขนสิ่งของผิดกฎหมาย ขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ลำเลียงยาเสพติด โจรกรรมรถหรือขับรถเฉี่ยวชนกับประชาชนแล้วหลบหนี ซึ่งไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ มีจำนวนมาก เนื่องจากรถคันดังกล่าวนี้มีการนำป้ายทะเบียนที่ปลอมหรือป้ายทะเบียนที่ผิดกฎหมายมาสวมใส่หรือนำป้ายทะเบียนของบุคคลอื่นมาสวมใส่ จึงทำการสืบสวนจับกุมอย่างต่อเนื่อง พร้อมฝากเตือนประชาชน 1.การนำข้อมูลรถของผู้อื่น นำมาทำแผ่นป้ายทะเบียนหรือแผ่นป้ายภาษีขึ้นมาใหม่ ถือว่าเป็นการสวมทะเบียนมีความผิดในข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม 2.การนำป้ายทะเบียนที่ไม่พบข้อมูลในระบบขนส่งมาใช้งาน ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย 3.การซื้อขายหรือการเปลี่ยนมือของรถ จะต้องมีการโอนผ่านทางทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกหรือขนส่งจังหวัดเท่านั้น 4.หากมีปัญหาเกี่ยวกับทะเบียนรถ ควรติดต่อกรมการขนส่งเพื่อขอคำแนะนำ ไม่ควรแก้ไขหรือดัดแปลงทะเบียนรถด้วยตนเอง 5.การซื้อขายรถมือสองจากเพจเฟสบุ๊ก มีข้อควรระวังอย่างมาก ควรตรวจสอบแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือได้ หรือตรวจสอบเอกสารประจำรถให้ครบถ้วนและถูกต้องตามกฎหมาย
0 ความคิดเห็น 0 เเชร์ 13 ครั้ง
พัทยาโซเชียล Pattaya.Social https://pattaya.social