สถานการณ์ " สาวหน้าตู้ " ตอนนี้เริ่มน่าเป็นห่วง แต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นตู้นะ มันก็เป็นโซฟาสวยๆให้น
สถานการณ์ " สาวหน้าตู้ " ตอนนี้เริ่มน่าเป็นห่วง แต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นตู้นะ มันก็เป็นโซฟาสวยๆให้น้องได้นั่งกัน ผมกำลังพูดถึง อาบอบนวด นี่แหละ ผมเคยนั่งคุยกับคนเชียร์แขกอยู่หลายที น้องมันก็บอกว่า ทุกวันนี้ขนาดฝรั่งที่มีตังค์เที่ยว ก็ยังแทบจะไม่เข้าอ่างกันเลย ส่วนมากก็นานๆมาที สั่งดื่มเม้าท์มอยกันซะมากกว่า บางทีมากัน 3 คน ขึ้นเด็กคนเดียวก็มี บางทีมากันเป็นโขยง เดินกุมเป้าไปมา พอสาแก่ใจแล้วก็เดินออก เด็กเชียร์ถึงกับยืนเหวอกันเลยทีเดียว ถามว่า สถานการณ์นี้มันบอกอะไรได้บ้าง ถ้าในมุมของคนเที่ยวก่อนนะ การเที่ยวแนวนี้ มันคือการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยโดยไม่ต้องคิดเยอะ มันคือเงินที่พร้อมจะโยนทิ้งได้ อันนี้พูดจริงนะ ถ้าเป็นคนสายเที่ยวแท้ๆ มันแทบไม่มีหรอก หรือเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คงน้อยมาก ที่จะนั่งเก็บตังค์ให้ครบ 3,000 แล้วกุมเงินก้อนนั้น มาอาบน้ำกับสาวสวย ความฝันสำเร็จแล้วเว้ยยยย งี้หรอ? ส่วนใหญ่คนเที่ยวแนวนี้ มักเป็นคนที่มีตังค์อยู่แล้ว แต่ในสถานการณ์แบบนี้ มันก็บ่งบอกได้ว่า แม้แต่คนมีตังค์เที่ยว ก็ยังเที่ยวน้อยลง ในมุมของเมืองท่องเที่ยวแล้ว อันนี้เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่มองข้ามไม่ได้เลย ถ้าว่างๆ ลองเอาประเด็นนี้ไปคุยกับคนข้างๆคุณดูก็ได้ ครั้งสุดท้ายที่จ่ายเงินเที่ยวด้วยความสุขคือเมื่อไหร่ ไม่ใช่เอาตังค์เก็บนะ เป็นตังค์ที่จ่ายด้วยความสุขจริงๆคือเมื่อไหร่ แล้วราคาสุดท้ายที่จ่ายคือแค่ไหน และหากวันนี้ต้องไปเที่ยว แล้วต้องจ่ายราคานั้นอีกครั้ง คุณยังโอเคมั้ย ? มันดูเหมือนเป็นวิชาการนะ แต่เอาจริงมันไม่ซับซ้อนเลย ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง ข้าวของแพง รายจ่ายสูง มันทำให้หลายคนคิดว่า อืมมมม.....เราจะจ่ายแพงขนาดนั้นไปทำไม มีวิธีการอื่นไหม หรือจริงๆใช้สองมือไปก่อนพร้อมกับเปิดคลิป ก็น่าจะพอแก้ขัดได้บ้าง คนเคยเที่ยวมันคิดแบบนี้จริงๆนะเว้ย . . - พี่ภาส เพจเดินรอบพัทยา -