เป็นประเด็นที่น่าคิดหลายอาชีพ และหลายธุรกิจน่าจะล้มหายไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกตินะ นึกภาพเหมือนมือถือปุ่มกด 3310 ที่เราใช้กันสมัยก่อน พอมันมีจอทัชสกรีนเข้ามา ปุ่มกดมันก็หมดยุคไปเป็นเรื่องปกติ หลายอาชีพที่เคยมั่งคั่งในอดีต เช่นอะไรดีล่ะ ? ร้านขายของชำก็ได้เห็นภาพดี ทุกวันนี้มีเซเว่น มีซีเจ มีห้างให้เดินสารพัด ไม่ต้องมาคอยง้อร้านป้าในหมู่บ้านอีกแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าร้านป้าของชำจะหายไปนะ แต่แน่นอนยอดขายต่ำลงจนน่าตกใจ ยิ่งถ้าใครไม่ได้มีบ้านเป็นของตัวเอง แล้วไปเช่าร้านเขาทำ อันนั้นยิ่งหนัก ส่วนใหญ่ที่ยังอยู่ได้เพราะเป็นบ้านตัวเองด้วย เปิดร้านขายของไปด้วยไม่เดือดร้อนอะไร ไม่เสียค่าเช่า ที่นี้เรามาคิดต่อว่า แล้วอาชีพอะไร หรือธุรกิจไหนที่มันมีแนวโน้มจะอยู่ได้ไปเรื่อย ๆ ไม่โดนหุ่นยนต์ AI หรือกระแสความนิยมพัดหายไป ส่วนตัวนะ ผมมองจากมุมส่วนตัวจริง ๆ อะไรก็ตามที่มันเกี่ยวกับคน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ เกี่ยวกับการสื่อสารกันระหว่างคนกับคน สิ่งนี้จะไม่มีอะไรมาแทนที่ได้ แค่อาจจะแค่แข่งขันกันหน่อยเท่านั้นเอง ยกตัวอย่างเช่นหมอ พยาบาล ความจริงเทคโนโลยีมันมีแล้วนะ เครื่องตรวจอัตโนมัติ เครื่องวิเคราะห์อะไรต่าง ๆ สารพัดที่เอามาใช้แทนหมอ แต่เชื่อเถอะในความเป็นมนุษย์ เราก็ยังอยากคุยกับคนอยู่ดี เราอยากฟังการวิเคราะห์จากหมอมากกว่า มันสบายใจมากกว่าคุยกับหุ่นยนต์ หรืออย่างอาชีพหมอนวด เอาจริงนะ ยอดขายเก้าอี้นวดทุกวันนี้ก็ไม่ได้เปรี้ยงปังมากมาย ถ้าไม่ใช่เก้าอี้ระดับหรูที่ไฮโซใช้กัน อันนั้นอีกเรื่องนึง แต่โดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์ก็ยังอยากไปนวดที่ร้านอยู่ดี เราอยากคุยกับหมอนวด อยากได้รับการสัมผัสแบบมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งทุกวันนี้หมอนวดที่เก่ง ๆ จับเส้นดี รู้วิธีเอาใจลูกค้า ก็ยังได้ลูกค้าประจำอยู่ทุกวี่ทุกวัน จนกว่าสังขารจะร่วงโรยไปเอง ก็คงเป็นตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมยกขึ้นมาชวนคุยกับพวกเรา ความจริงมีอีกอาชีพหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ามันจะไม่มีกระแสอะไรมาแทนได้เลย นั่นคือธุรกิจที่เกี่ยวกับ Sex มันอาจจะมีซบเซาบ้างตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคน แต่ข้อนี้ผมการันตี ตราบใดที่มนุษย์ยังมีความรู้สึก มีอารมณ์ และยังมีชีวิตอยู่ Sex เป็นเรื่องที่จะอยู่คู่กับเราไปตลอดกาล บางคนอาจจะมีเสียงคัดค้านว่า เดี๋ยวนี้มันมีตุ๊กตายางแล้ว อนาคตก็คงจะมีรุ่นใหม่ที่พัฒนามากขึ้น ก็แล้วแต่เขาเถอะครับ แต่ถ้าท่านโตพอ แล้วผ่านชีวิตมาประมาณนึง ท่านน่าจะเข้าใจประโยคนี้ ยังไงเนื้อแนบเนื้อมันก็ให้รสสัมผัสดีกว่า ฟิลลิ่งของการโดนกระชากผม การถูกด่า การโดนตบ การเสียดสีจนเหงื่อแตกพล่าน ความเร่าร้อนรุนแรงจากการเต้นของหัวใจ และการสั่นไหวโยกขึ้นลงไปมา จนเนื้อกระตุกเสร็จ ไม่มีเทคโนโลยีไหนจะมาแทนสิ่งนี้ได้ และคนที่ให้ความสุขเหล่านี้กับผู้คนได้ จะยังสามารถทำงานนี้ได้อีกนาน ไม่ว่าจะทำเป็นอาชีพ หรือทำเพื่อหลอกขอตังค์ 😅 . . - พี่ภาส เพจเดินรอบพัทยา -