เมื่อเวลา 23.30 น. 1 กรกฎาคม 68 ร.ต.อ.สุรชัย ช่วยคูณ รอง.สวป.สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกอาวุธมีดฟันที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่โครงการหมู่บ้านหรู ริมถนนสายทุ่งกลม - ตาลหมัน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปทำการตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา ไปถึงที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านกำลังช่วยชีวิตชายแรงงานต่างด้าว ทราบชื่อ นาย จอ อายุ 39 ปี ชาวเมียนมาร์ สภาพถูกมีดมีดฟันที่กลางศีรษะ เป็นแผลลึกกว่า 10 เซนติเมตร เลือดไหลนองร่าง หน่วยกู้ภัยฯจึงช่วยปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ขณะที่ชาวเมียนมาร์รายนี้ ไม่สามาถพูดภาษาไทยได้ โดยพยามสื่อสารด้วยภาษามือ ลักษณะชี้มาที่ตัวเอง แล้วบอกว่า ยะไข่ จากนั้นก็ชี้เข้าไปในบ้านหรู ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างต่อเติม รีโนเวท แล้วก็พูดว่า พม่า ลักษณะพยายามจะสื่อสารอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกันตำรวจได้ข้อมูลจาก พนักงานมินิมาร์ท ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ ทราบเบื้องต้นว่า คนเจ็บได้วิ่งหนีตายมาขอความช่วยเหลือ โดยมาในสภาพมือกุมศีรษะ เลือดไหลนองร่าง แต่ไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมา เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ระหว่างที่กำลังช่วยเหลือคนเจ็บ ปรากฏว่ามีแรงงานชาวพม่า 4 คน พยายามจะมาอุ้มตัวคนเจ็บกลับไป แต่พนักงานมินิมาร์ทได้ห้ามปรามไว้ พร้อมกับรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ มีกล้องวงจรปิดหน้าร้านมินิมาร์ท นาทีคนเจ็บวิ่งหนีมาขอความ ช่วยเหลือ และ ตอนที่มีคนงานพม่าพยายามจะมาดึงตัวคนเจ็บกลับไป ต่อมา หัวหน้าคนงานชาวเมียนมาร์ ได้เดินทางมาจุดเกิดเหตุ เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนงานของตัวเอง ก่อนจะพาตำรวจเข้าไปคุมตัวฝ่ายคู่กรณี คนก่อเหตุ ซึ่งก็นอนพักอยู่ในห้องคนงาน ภายในบ้านหลังที่กำลังก่อสร้าง โดยผู้ก่อเหตุ ยังทำตัวเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทราบชื่อนายแก้ว อายุ 51 ปี ชาวเมียนมาร์ โดยพบบาดแผลถูกเหล็กแทงเข้าที่บริเวณใต้รักแร้ข้างซ้าย และ แผลถลอกตามใบหน้า พร้อมกับยึดอาวุธมีด อีโต้ 1 มีคราบเลือดติดอยู่ คมมีด ได้จำนวน 1 เล่ม จากนั้นตำรวจได้คุมตัวผู้ก่อเหตุ ไปเผชิญหน้ากับฝ่ายคนเจ็บ โดยทั้งคู่ เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องสัญชาติเดียวกัน ระหว่างที่ทั้งคู่ มีการเผชิญหน้ากัน เกิดมีการพูดจาโต้เถียงเป็นภาษาเมียนมาร์ โดยลักษณะอาการของทั้งคู่ มีอาการเถียงกันไปมา กันอย่างรุนแรง เหมือนกับ ต่างฝ่ายต่างโยนความผิดให้กัน สุดท้ายตำรวจจึงตัดสินใจคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนที่โรงพัก สภ.หนองปรือ ส่วนฝ่ายคนเจ็บ ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการเย็บบาดแผล ด้านนายนิว อายุ 30 ปี หัวหน้าคนงานชาวเมียนมาร์ ให้ข้อมูลว่า จากการสอบถามข้อมูลจากลูกน้องตัวเอง ทั้งฝ่ายคนเจ็บและฝ่ายผู้ก่อเหตุ ซึ่งทั้งคู่เพิ่งจะมาทำงานกับตนได้ประมาณ 1 เดือน โดยก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้นั่งดื่มเหล้าขาวกัน จากนั้นฝ่ายคนเจ็บ ได้ทวงเงิน 2,300 บาท กับ ฝ่ายคู่กรณี ซึ่งเป็นรุ่นพี่ แต่ฝ่ายรุ่นพี่ก็พูดจาทวงบุญคุณ เกี่ยวกับเรื่อง ซื้อกับข้าวให้กินทุกวัน ทำให้ทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ส่วนจากการถามข้อมูลว่าใครเป็นคนเริ่ม ต่างฝ่ายก็ต่างโยนกันไปโยนกันมา โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุ อ้างว่า คนเจ็บ ใช้มีดฟันก่อน แถมยังถีบจนล้มลงไปกับพื้น ส่วนฝ่ายคนเจ็บ ก็อ้างว่าฝ่ายผู้ก่อเหตุ เป็นผู้ลงมือก่อน ซึ่งในเรื่องนี้ ตนเองได้ปรึกษากับ ผู้ว่าจ้าง จะไม่ขอยุ่งเกี่ยว กับลูกน้องชาวเมียนมาร์ทั้ง 2 คน และขอให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถ้าหากต้นไกล่เกลี่ย แล้วตกลงกันได้ กลัวจะกลับมาสร้างปัญหาอีก