เหตุการณ์รายนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 03.50 น. วันที่ 29 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรานงานว่า มีชาวบ้านถ่ายคลิป ชายชาวต่างชาติกับผู้หญิงไทย ทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง โดยฝ่ายชาวต่างชาติได้ผลักผู้หญิงไทยล้มไปล้มกลางถนน พอมีคนไทยเข้าไปห้าม แต่หลังจากนั้นเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อจู่ๆ ชายชาวต่างชาติรายนี้ ได้ถูกกลุ่มคนไทย และ การด์รักษาความปลอดภัยในสถานบันเทิงรุมทำร้าย จนล้มไปนอนกลางถนน เหตุเกิดบริเวณย่านสถานบันเทิง ซอยบัวขาว พัทยากลาง หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ 29 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยได้ผู้คุยกับ นายพงษ์ นามสมมุติ อายุ 37 ปี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ และ เป็น 1 ในคนไทยที่อยู่ในคลิปดังกล่าว เปิดใจว่า ก่อนเกิดเหตุ ชายชาวต่างชาติ กับ ผู้หญิงไทย อยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุรา ได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง โดยเดินทะเลาะกัน มาตามทางซอยบัวขาว ก่อนที่ชาวต่างชาติ จะผลักผู้หญิงไทยล้ม จากนั้นผู้หญิงไทยก็พยายามจะเดินตามเอาเรื่อง ชาวต่างชาติ ก็พยายามจะเดินหนี แต่จังหวะที่ชาวต่างชาติเดินหนี ได้ไปผลักรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านจนล้ม แถมยังใช้มือผลักเข้าที่ ใบหน้าของการด์ซึ่งประจำอยู่สถานบันเทิงใกล้ๆ จากนั้น การด์ รายนี้ ก็พยายามจะเอาไปเอาเรื่อง ชาวต่างชาติ ลักษณะประมาณว่า ทะเลาะกันเอง แล้วทำไมต้องมาทำร้ายคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย ระหว่างที่การด์จะเข้าไปเอาเรื่องชาวต่างชาติ จนเกิดการกระชากคอเสื้อกัน ซึ่งในระหว่างนั้น มีคนไทยที่เห็นเหตุการณ์ พยายามเข้าไปห้าม แต่ปรากฏว่า ชาวต่างชาติรายนี้ ได้เอาศีรษะโขกเข้าที่หน้าการด์อย่างแรง จนล้มไปนอนกองกับพื้น ทำให้คนที่รู้จักกับการด์ ร่วมถึงชาวบ้าน ไม่พอใจ ชาวต่างชาติรายนี้ พากันไปรุมทำร้ายชาวต่างชาติ ตามที่ปรากฏในคลิป โดย 1 ในนั้นก็มีตนเองรวมอยู่ด้วย พร้อมทั้งยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ก็อย่างให้สังคมเข้าใจว่า ฝรั่งก็มีพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรงมากเกินไป ในเบื้องต้น ตนเองพร้อมกับ การด์ ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้ไปแจ้งความไว้แล้ว โดยตำรวจจะนัดไปเจรจากับชาวต่างชาติ ช่วงค่ำวันนี้ ผู้สื่อข่าว ได้สอบถามไปยัง สภ.เมืองพัทยา เบื้องต้น ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดเหตุ มีผู้มาแจ้งความทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายชาวต่างชาติ เป็น ชาวสวีเดน อายุ 44 ปี ส่วน คนไทย ซึ่งเป็นการด์สถานบันเทิง ทั้ง 2 ฝ่ายตำรวจได้ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อขอใบรับรองแพทย์ และ จะนัดทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป