ไรเดอร์เข้าใจผิดคิดว่าทำร้ายผู้หญิงยกพวกรุมยำ นทท.ผวาหนี ไม่จ่ายบิล ทรัพย์สินพัง ทำร้านเดือนร้อน เมื่อเวลา 01.36 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 น.ส.ติยาพร อายุ 34 ปี เจ้าของอาหารร้านอินเดียเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน จนทางร้านได้รับความเดือดร้อน ทรัพย์สินเสียหาย ลูกค้าหนีกระเจิงไม่ได้จ่ายบิลค่าอาหารและเครื่องดื่ม เหตุเกิดที่ร้านอาหารอินเดีย ริมถนนทัพยา เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สายใจ คำจุลลา สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยาไว้แล้ว พร้อมกล้องวงจรปิดมาเปิดเผยเป็นหลักฐาน โดยให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุได้มีผู้หญิงสัญชาติอุซเบกิสถาน ทะเลาะกับหนุ่มอินเดีย แล้วตีกันที่หน้าร้าน แต่กลุ่มวัยรุ่นไรเดอร์ ที่เห็นเหตุการณ์ เข้าใจผิดคิดว่าผู้ชายทำร้ายผู้หญิง จึงกรู่วิ่งข้ามถนนมาเกือบ 20 คน แล้วใช้กำลังทำร้ายร่างกาย โดยไม่ได้มีการสอบถาม ทั้งยังชุลมุนจนผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง ได้รับบาดเจ็บไปด้วย รวมไปถึงข้าวของภายในร้านได้รับความเสียหาย มิหนำซ้ำนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการอยู่ภายในร้าน ก็พากันวิ่งหนีออกไปโดยไม่ได้ชำระบิลค่าอาหารและเครื่องดื่มมูลค่ากว่า 5,000 บาท […]

เริ่มแล้ว! พัทยามาราธอน ครั้งที่ 32 ประจำปี 2568 เหล่านักวิ่งไทย-เทศตบเท้าเข้าร่วมแข่งขันวันแรกอย่างคึกคัก เคนย่าเข้าเส้นชัยก่อนใครทั้งชายและหญิง ตามคาด! (19 ก.ค.68) เมื่อเวลา 05.45 น. ที่บริเวณจุดปล่อยตัว หน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา จ.ชลบุรี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ครั้งที่ 32 ประจำปี 2568 “Pattaya Marathon 2025” ประเภทควอเตอร์มาราธอน 10k ประเภทวีลแชร์ และแฟมิลี่รัน ระยะ 4.5k พร้อมด้วยนายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา และคณะผู้บริหารเมืองพัทยา พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สโลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี […]

แม่บ้านสาววัย 26 ถูกหลอกกู้เงินออนไลน์ สูญเกือบ 5 พัน หวังนำไปรักษาป้าที่ป่วย เมื่อเวลา22.00น.ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 นางสาวรัชนีกร อายุ 26 ปี แม่บ้านสาว เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา หลังถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินค่ามัดจำอ้างเป็นเงื่อนไขการกู้เงินออนไลน์ สูญเงินไปเกือบ 5,000 บาท ผู้เสียหายเล่าว่า ตนกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินและกำลังหาเงินไปช่วยป้าที่กำลังป่วย จึงตัดสินใจสมัครกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์ วงเงิน 10,000 บาท โดยผู้ปล่อยกู้แจ้งว่าต้องวางเงินประกันสัญญา 10% ของยอดกู้ คือ 1,000 บาท เนื่องจากไม่มีหลักทรัพย์หรือคนค้ำประกัน แต่เมื่อโอนเงินไปแล้ว กลับถูกหลอกให้โอนเพิ่มอีก 2 ครั้ง โดยอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการและค่าระบบ รวมยอดที่สูญไปทั้งสิ้น 4,999 บาท ทางแก๊งยืนยันว่าระบบอนุมัติแล้ว และจะโอนเงินให้ในวันถัดไป พร้อมส่งลิงก์และเลขบัญชีให้ผู้เสียหายรอรับเงิน แต่เมื่อถึงเวลา กลับไม่มีการโอนเงินตามที่ตกลงไว้ ผู้เสียหายจึงขอเงินคืนเพื่อนำไปรักษาป้าที่ป่วย แต่ถูกปฏิเสธ โดยอ้างว่าเงินถูกล็อกอยู่ในระบบและไม่สามารถโอนคืนได้ ด้านนางสาวรัชนีกรยังฝากเตือนประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่กำลังเดือดร้อนเรื่องการเงินว่า หากต้องการกู้เงินผ่านแอปฯ ควรตรวจสอบให้ถี่ถ้วน และอย่าหลงเชื่อการโอนเงินล่วงหน้า […]

เหยื่อรายวัน! สาวสองพัทยาอาละวาด หลอกหนุ่มจีนเข้าห้องก่อนเชิดเงิน 2 หมื่นบาท เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 นาย Zhang อายุ 36 ปี สัญชาติจีน เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.มานะศักดิ์ พลเยี่ยม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา หลังถูกสาวประเภทสองรายหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันบริเวณชายหาดพัทยาหลอกลวงและขโมยเงินสดจำนวน 20,000 บาท ผู้เสียหายให้การว่า ได้พูดคุยกับสาวประเภทสองคนดังกล่าวและถูกคอกันดีจึงชักชวนไปที่โรงแรมที่พักส่วนตัว เมื่อไปถึงห้องพัก นาย Zhang ได้เข้าไปอาบน้ำ แต่เมื่อกลับออกมาก็พบว่าสาวประเภทสองได้หายตัวไปพร้อมกับเงินสดในกระเป๋าจำนวน 20,000 บาท จึงรีบเดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้หลายวันก่อนก็มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียวก็ถูกก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วก็ยังจับกุมตัวไม่ได้อาจะมีพฤติกรรมซ้ำซาก มีผู้เสียหาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าแจ้งความในลักษณะเดียวกัน จนกลายเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำซาก สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก

ชาวบ้านมาบสอง-หนองใหญ่ ซอย 2ทนกลิ่นเหม็นน้ำเน่ามากว่า1 ปี ร้องเทศบาลก็แค่มาดู ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ภายในซอยมาบสอง-หนองใหญ่ 2 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าทนกลิ่นเหม็น-น้ำเน่ามากว่า 1 ปี นอกจากนั้นเคยร้องไปยังเทศบาลเมืองหนองปรือมาหลายครั้ง ตั้งแต่ต้นปี 67 ทางเทศบาลเมืองหนองปรือลงมาดูจริง ชาวบ้านบอกก็ลงดูจริงๆแต่ไม่ทำอะไรเลย กลับมาบอกให้ชาวบ้านสร้างกำแพงบ้านให้สูงป้องกันกลิ่น จากการลงพื้นที่ดังกล่าวพบว่า เดิมที่เป็นบ่อน้ำเนื้อที่กว่า 1 งาน แต่ปัจจุบันเจ้าของที่ต้องการถมที่ เลยให้คนเอาเศษปูนมาทิ้ง รวมทั้งเป็นจำพวกขยะ กล่องโฟม เศษพลาสติก และเห็นว่ามีเศษขยะลอยเต็ม รวมทั้งถุงดำใส่ขยะ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวบางส่วนถมที่เต็มแล้ว ลงเหลือบ้างส่วนที่ยังมีน้ำขังและเศษขยะลอยส่งกินเหม็น ชาวบ้านได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมาซื้อที่ดินที่ติดกับบ่อน้ำดังกล่าว แต่ก่อนบ่อน้ำเป็นบ่อน้ำที่คนมาหาปลา หาหอย ชาวบ้านไปตักมารดน้ำต้นไม้ แต่มาเมื่อต้นปี 67 เจ้าของที่ดินเริ่มถมที่แต่ไม่ทราบจะทำอะไร ซึ่งให้บุคคลภายนอกเอาเศษปูนเศษดินมาทิ้ง แต่บ้างคนที่มาทิ้งเป็นจำพวกถุงขยะ โดยเจ้าของที่ไม่มีการตรวจสอบ ชาวบ้านยังบอกอีกว่า เวลาฝนตกบริเวณดังกล่าวส่งกลิ่นเหม็น เคยร้องไปเทศบาลเมืองหนองปรือหลายครั้งตั้งแต่ต้นปี 67 ทางเทศบาลก็ลงมาดูแล้วบอกจะดำเนินการให้ แต่ปัจจุบันก็ยังไม่ดำเนินการอะไรเลย มิหนำซ้ำทางเทศบาลยังมาบอกให้ตนเองแก้ไขสร้างกำแพงให้สูง ชาวบ้านโดยรอบก็ทนกลิ่นเหม็นมากเวลาฝนตกหรือกลิ่นที่พลัดมาตามกระแสลม จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยงข้องลงมาแก้ไข เพราะตนเองจะดำเนินการเกี่ยวกับที่พักและร้านอาหาร หากลูกค้าเดินทางมาแล้วพบสภาพแวดล้อมเป็นแบบนี้ […]

รัฐมนตรี “สรวงศ์”นำทีม ตำรวจท่องเที่ยว ปกครอง เดินเยี่ยมนทท.ย้ำมั่นใจความปลอดภัย ดมื่อเวลา 20.06 น.วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกีฬา นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุงพลตำรวจโท ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา เดินตรวจเยี่ยมความเรียบร้อย ของสถานประกอบการ และจุดจอดรถบริการนักท่องเที่ยวเคลื่อนที่ (CCOC Mobile) โดยมุ่งเน้นไปในเรื่องของความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นห่วงในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจ ที่ซบเซ้าลงในช่วงหน้าโลซีซั่น ซึ่งมีปริมาณนักท่องเที่ยวน้อยลง จึงมีแนวทางที่จะจัดกิจกรรมต่างๆในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เพราะเมื่อมีการจัดกิจกรรมก็จะต้องมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ เดินทางมาใช้บริการสถานประกอบการต่างๆ ทั้งร้านอาหาร โรงแรม สถานบันเทิง รวมไปถึงการใช้บริการรถสาธารณะด้วย อย่างไรก็ตามทางภาครัฐจึงต้องมีอุปกรณ์ และเทคโนโบยี ที่จะเสริมศักยภาพ และมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาในทุกๆวัน ซึ่งก็ขอให้นักท่องเที่ยวมั่นใจในมาตรการของภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการและพนักงานออกมาร่วมให้ต้อนรับ มอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกีฬา ก่อนจะร่วมกันเดินเท้าพูดคุยประชาสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยว พร้อมมอบของที่ละลึก […]

ตะลึงทั้งโรงพัก สาวสติฟั่นเฟือน หิ้วยาไอซ์ อุปกรณ์เข้าโรงพัก ตร.ช่วยนำส่งรักษา เมื่อเวลา 04.36 น.วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยาพ.ต.ท.สิริวัฒน์ ครัชมาตร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา รวมไปถึงกลุ่มผู้สื่อข่าว ที่เตรียมพร้อมจะเข้าร่วมงาน พัทยามาราธอน 2025 อยู่บริเวรด้านหน้าสภ.เมืองพัทยา ปรากฏว่ามีผู้หญิงอายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น สภาพเนื้อตัวมอมแมม มีบาดแผลเลือดไหลที่หัวเข่าข้างขวา ถือถุงพลาสติก ภายในถุงมีอุปกรณ์การเสพ และยาไอซ์ บรรจุอยู่ในซองพลาสติกแบบซิป 1 ซอง มาเทโชว์ให้กับทุกคนดู สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก เมื่อสอบถามว่าสิ่งที่พกมานั้นคืออะไร เจ้าตัวกลับพูดไม่รู้เรื่องวกไปวนมา มีอาการคล้ายสติไม่ดี พร้อมกับอธิบายวิธีใช้ อุปกรณ์การเสพ ราคาและแหล่งที่ซื้อยาเสพติดดังกล่าว ตรวจสอบ ไม่พบเอกสารแสดงตัวบุคคลแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึด ยาเสพติดพร้อมอุปกรณ์การเสพไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นพ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้ประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา มาปฐมพยาบาลบาดแผลที่ขา ของผู้หญิงรายนี้ พร้อมทั้งส่งตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดและรักษาต่อไป

Pattaya woman scammed while trying to save sick auntLegacyA Pattaya housekeeper desperate to save her sick aunt was cruelly scammed out of nearly 5,000 baht in an online loan fraud — leaving her devastated and broke. The incident unfolded at 10pm yesterday, July 18, when 26 year old Ratchaneekorn Pholjamrat walked into Pattaya City Police Station, clutching receipts and screenshots, to file a formal complaint against the online fraudsters. Ratchaneekorn, who works as a housekeeper, told police she had been searching for a quick 10,000-baht loan to cover urgent medical expenses for her ailing aunt. With no collateral or guarantor, she turned to what seemed like a legitimate online lending platform. But instead of receiving help, she fell into a trap. The supposed lender requested an initial 10% deposit — 1,000 baht — to approve the loan due to her lack of financial backing. Once she transferred the money, more demands followed. She was asked to pay two additional amounts for processing and system fees, bringing her total out-of-pocket loss to 4,999 baht. “They confirmed the loan was approved and said the money would arrive the next day,” Ratchaneekorn said. “They sent me a link and an account number — but the money never came.” When she tried to get her money back, the scammers claimed the funds were locked in the system and couldn’t be returned. Her pleas fell on deaf ears. Heartbroken and furious, she is now warning others — especially those in desperate situations — to be extremely cautious when dealing with online lenders. “Don’t fall for their tricks. Always check the source and never pay in advance.” Pattaya police have launched an investigation and are tracing the digital footprints left by the scammers in hopes of tracking down the perpetrators. Officers confirmed they are working to freeze the associated bank accounts and identify the fraudsters behind the operation, reported The Pattaya News. Online loan scams are on the rise across Thailand, particularly targeting vulnerable individuals during tough economic times. Police remind the public to report suspicious activity and avoid financial transactions with unverified platforms. The story Pattaya woman scammed while trying to save sick aunt as seen on Thaiger News.

Pattaya mob sparks bill-dodging chaos at Indian restaurantLegacyIn Pattaya, an altercation at an Indian restaurant has led to significant property damage and financial losses, with patrons fleeing without paying bills amounting to over 5,000 baht. The incident took place in the early hours of Tuesday, July 15, at Green Chilly Indian Restaurant, situated near Soi 16 in South Pattaya. The restaurant’s owner, 34 year old Tiyaporn Saengchan, reported to Pattaya City Police that the trouble began with a dispute between an unidentified Uzbek woman and an Indian man outside the venue. This situation escalated when a group of about 20 Bolt delivery riders, assuming the man was attacking the woman, crossed the street and began assaulting him. The chaos that followed resulted in injuries to bystanders, damage to the restaurant’s property, and patrons hurriedly leaving without paying for their meals and drinks. Tiyaporn lodged a complaint with Investigating Officer Lieutenant Colonel Sai Jai Khamjulla, providing CCTV footage as evidence. However, as of today, July 19, no suspects have been arrested. Further disturbances outside the restaurant occurred at 1.36am today. The first involved intoxicated foreign tourists who had a misunderstanding, although police intervention stopped it from escalating. However, once the officers had left, another fight erupted, this time involving Indian tourists, causing yet more disruption in the vicinity, reported The Pattaya News. Tiyaporn has urged officials to identify those responsible for the July 15 incident, seeking compensation for the damages and unpaid bills, as well as legal action. She also appealed to any customers who left due to the violent circumstances to return and pay their outstanding bills voluntarily to avoid any potential legal consequences. In another dine and dash incident, chaos erupted on Phuket’s notorious Bangla Road in the early hours of March 12 after a tourist allegedly skipped out on his restaurant bill, triggering a violent clash. The incident unfolded in Patong’s busy nightlife district when a group of local ladyboys reportedly confronted the foreign man over the unpaid tab. Footage filmed by a bystander shows a heated exchange quickly escalating into punches and kicks, with the man knocked to the ground and stomped on by the group. A crowd of stunned tourists gathered as the street fight unfolded. Patong police arrived swiftly to break up the brawl. The story Pattaya mob sparks bill-dodging chaos at Indian restaurant as seen on Thaiger News.

หนุ่มอุบลฯ วัย 40 ปี ผูกคอเสียชีวิตในบ้านพัก คาดเครียดจากปัญหาหนี้สิน เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลตะเคียนเตี้ย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จึงรุดเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายวีระศักดิ์ อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี สภาพศพใช้สายไฟผูกคอกับขื่อภายในบ้านกับด้วยกระเบื้อง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด เสียชีวิตประมาณ 4-5 วันสภาพศพเริ่มส่งกลิ่น จากการสอบถามนางรัชนี อายุ 58 ปี อดีตภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ตนแยกทางกับนายวีระศักดิ์ อดีตสามีมาระยะหนึ่ง ผู้ตายให้ฟังเสมอว่ามีปัญหาทางด้านการเงินที่กู้หนี้ยืมสิน และมักบ่นเรื่องความเครียดจากหนี้สินอยู่เป็นประจำ รวมทั้งทำงานไม่ได้ค่าแรงงานคาดว่าเป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่การตัดสินใจจบชีวิตตนเองในครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ และส่งศพให้แพทย์ชันสูตรที่โรงพยาบาล ก่อนมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป โดยจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อสรุปสาเหตุอย่างเป็นทางการอีกครั้ง