พักพูลวิลล่าเปิดใหม่🏝️📍Thunder House 🏖️บ้านสวยราคาดีเว่อร์💦4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ #พัทยา #เที่ยวพัทยา #พูลวิลล่า #พูลวิลล่าพัทยา #พัทยาพูลวิลล่า #ที่พักพัทยา

เมื่อเวลา 02.10น. 3/7/68 รับแจ้งมีอุบัติเหตุหน้าโลมาโชว์ถนนเลียบมอเตอร์เวย์  ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถมอไซค์ชนกับรถกระบะ มีผู้บาดเจ็บชายหนึ่งราย  มีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่แขนขวาท่อนบนเกือบขาด ขาขวาหักผิดรูป หมดสติปลุกไม่ตื่น กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือร้องขอรถแอดวานซ์โรงพยาบาลพัทยาปัทมาคุณ สนับสนุนที่เกิดเหตุ เคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาล  #ข่าว #อุบัติเหตุ #pattaya

An armed soldier guards the Preah Vihear temple complex, a UNESCO world heritage site. All senior Thai politicians, with or without Paetongtarn Shinawatra in the driving seat, are adamant that they will not debate the Cambodian border disputes at the International Court of Justice (ICJ) in the Netherlands. Cambodia will seek a favorable judgment alone on several ancient temples and surrounding land in north east Thailand known as the Emerald Triangle. Although the ICJ was set up by the United Nations in 1946 with 15 nominally independent judges, its record is sketchy to say the least. The US withdrew from being bound by its findings as early as 1986 (human rights in the war in Nicaragua) and Iran refused a judgment against itself in 1979 (the US hostages crisis). Australia declared in 2002 that it would not be bound by decisions about maritime boundaries. In the last two years, Israel has rejected arbitration about genocide in Gaza, whilst Russia has denied violating the genocide convention of 1948. There are many more examples. In 1962 the ICJ awarded the Preah Vihear temple to Cambodia without clarifying ownership of the surrounding territory. Critics say that decision is typical of ICJ decisions which rely on judicial diktats without resolving the underlying disputes. The confusion, of course, is the fault of France which formerly ruled Cambodia. In 1904 a French treaty signed with Siam decided the Dangrek Mountains to be the natural watershed barrier creating the borders. The treaty thus placed the disputed Preah Vihear complex in Thailand, although the exact demarcation was left to a mixed commission which never reached a conclusion. A further treaty of 2007, drawn up by French surveyors with little Siamese input, deviated from the natural boundary of the mountains and placed the temple in Cambodia’s orbit. Thailand later contested that amid arguments over which maps were reliable. The International Court of Justice in The Hague lacks enforcement powers and all governments know it. Thus Thailand rejects reliance on colonial cartography 120 years old to prove contemporary geopolitics. Still the ambiguity led the ICJ in 1962, generously confirmed in 2012, to support Cambodia’s claims largely on the grounds that Siam’s leaders at the time had – de facto – accepted the 1907 demarcation, only to complain later. The 1962 judgment was a split decision: 9 to 3 in favour of Phnom Penh. Thailand had given notice beforehand she would not accept foreign ownership of Thai territory based on disputed maps. Whilst Cambodia certainly views the clutch of temples and adjoining land as a proud national heritage and a symbol of sovereignty, the same is true of Thailand. Both nations are currently in a frenzy of intense patriotism. Obviously Phnom Penh will seek to refer the issues to historically-friendly international arbitration, even though there is no realistic mechanism or political will to force agreement. Pie in the sky is an appropriate summary. In 2000, Cambodia and Thailand agreed to set up the two-country Joint Boundary Commission to resolve border disputes. It last met in June 2025 and unsurprisingly failed to make any progress. But it is just as capable as the ICJ in boundary demarcation , including the use of LiDAR technology to orthophoto maps. The best way forward is likely dual discussions under ASEAN auspices. Joint sovereignty of some border areas and treasured ancient temples offers the best chance of resolution. Borders are fickle entities at the best of times. Thailand controlled Siem Reap and its temples from 1795 to 1907 and the ownership dispute dragged on until the end of world war two. Cool head not rhetoric are needed once again.

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ถึง 06.00 น วันพรุ่งนี้ #กรมอุตุนิยมวิทยา #ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

หนุ่มขับเก๋งหลับในเสยเก๋งจอดรอเข้าซอย เสียหลักตีลังกาล้อชี้ฟ้า โชคดีไร้เจ็บ เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ศูนย์วิทยุเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งอุบัติเหตุ รถยนต์เก๋งเฉี่ยวชนกัน เสียหลักพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า กีดขวางการจราจร เหตุเกิดบนถนนพัทยาใต้ หน้าร้านเพียวมอเตอร์ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์จำนวน 3 คันได้รับความเสียหาย เป็นรถยี่ห้อ โตโยต้ายาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน งย 3500 นครราชสีมา อยู่ในสภาพรถตีลังกาล้อชี้ฟ้า เสียหายยับเยิน มีนายเจษฎากร เกตุทำ อายุ 24 ปีเป็นเจ้าของรถ ส่วนอีกคันเป็นรถยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ หมายเลขทะเบียน 7723กรุงเทพมหานคร สภาพรถด้านหน้าฝั่งขวามีร่องรอยถูกชนได้รับความเสียหายมี น.ส.สุมาลี น้อยดี อายุ 32 ปี เป็นเจ้าของรถ ส่วนอีกคัน เป็นรถยี่ห้อฮอนด้าแจ๊สสีดำ ทะเบียน 8กส 7485กรุงเทพมหานคร ด้านข้างรถมีรอยถูกชนได้รับความเสียหายเช่นกัน สอบถามน.ส.สุมาลี น้อยดี อายุ 32 ปี ขณะที่จอดรถเปิดไฟกำลังจะเลี้ยวขวาเข้าซอย สังเกตเห็นรถยาริสคันสีขาวขับ โซซัดโซเซ เข้ามาหาตนเองก่อนจะชนเข้าที่หน้ารถและเสียหลักพลิกคว่ำ ด้านนายเจษฎากร เกตุทำ อายุ 24 ปีเจ้าของรถยาริสสีขาว ให้ข้อมูลว่าตนเองขับรถไปส่งแฟนสาวที่บ้าน ก่อนจะขับกลับที่พัก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รู้สึกง่วงจนเผลอหลับใน รู้ตัวอีกทีก็เสียหลักไปชนรถคันอื่นจนตีลังกาล้อชี้ฟ้าเสียแล้ว เบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ บันทึกภาพที่เกิดเหตุ พร้อมจะตรวจสอบกล้องวงจรไว้เป็นหลักฐาน ประกอบสำนวนคดี ก่อนเชิญคู่กรณีทั้งหมดไปสอบปากคำเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป ภาพ/ข่าว ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

เขาคงมีเหตุผลของเขา

เมื่อมีรุ่นน้องถามว่า......อันนี้เป็นอีกหนึ่งความคลาสสิคของเมืองพัทยา จำได้เลย สมัยมาพัทยาครั้งแรกๆ ผมก็ถามรุ่นพี่ในสมัยนั้นว่า ท่วมแบบนี้ตลอดหรอ? เขาก็บอก อืม ตกแป๊บเดียวก็เป็นแบบนี้แล้ว ทีแรกกูก็ทำหน้าตกใจเหมือนมึงนี่แหละ อยู่ไปหลายปีก็เริ่มชิน เพราะเป็นแบบนี้มาตลอด จนกระทั่งวันที่ตัวผมเองอยู่มานานๆบ้าง ก็เริ่มมีรุ่นน้องมาถามแบบนี้เหมือนกัน มันเพิ่งลงมาจากต่างจังหวัด แล้วมาทำงานพัทยาครั้งแรก พี่! มันท่วมขังแบบนี้ตลอดเลยหรอ ? ผมก็ตอบ อืม ใช่ ตอนกูเห็นครั้งแรกกูตกใจเหมือนมึงนี่แหละ เดี๋ยวสักพักมึงก็ชิน แล้วเชื่อไหม วันหนึ่งที่มึงอยู่พัทยาไปนานๆ เดี๋ยวก็จะมีรุ่นน้องบางคน มาถามมึงแบบนี้นี่แหละ แล้วมึงก็ต้องตอบเหมือนกู อืม ใช่ กูก็เห็นท่วมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว 😅

มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย...... เป็นเรื่องราวที่แฟนเพจส่งมาระบายทางข้อความ ผมรู้สึกว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่มีในสังคมไทยเรามาเนิ่นนาน และหลายคนเผชิญอยู่ แต่ผมก็ไม่แน่ใจนะว่า สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับใครไหม หรืออาจจะแค่ฟังผ่านไป เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องของเรา มีน้องคนนึง ผมสมมุติชื่อให้ " น้องอ้อย " อ้อยโตมาในครอบครัวที่เหมือนถูกตีกรอบไว้ตั้งแต่เด็ก ถ้ามันโตเป็นสาวนะ ให้มันเรียนแค่นี้พอ จากนั้นก็ให้มันไปอยู่พัทยาจับฝรั่งรวยๆทำผัว แล้วก็ให้ฝรั่งมาเลี้ยงครอบครัวเรา ซึ่งวีรกรรมเหล่านี้ทั้งหมด แม่ของอ้อยเคยทำมาก่อนแล้วแต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็ไปได้ผัวไทยจนมีอ้อยออกมา ตัวอ้อยเองเมื่ออายุ 19 เธอก็เดินตามเส้นทางที่แม่วางไว้จริงๆ แต่จากที่อ่านในข้อความ ผมรู้สึกว่าเธอไม่ได้เต็มใจนะ เพราะการลงมาพัทยา มันมีเงื่อนไขผูกมัดไว้แล้วว่า ต้องหาเงินให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 20,000 แต่เบรคก่อน 20,000 นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอ้อยนะ แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องส่งให้แม่ใช้หนี้ ธ.ก.ส. ที่แม่เธอได้สร้างเอาไว้ให้ ด้วยเหตุผลว่า " ก็เอามาเลี้ยงมึงไง " ซึ่งอ้อยก็อยากจะสอบถามเหลือเกินว่า เงินที่กู้มาหลายแสนขนาดนั้น ถ้าเอามาเลี้ยงหนูจริง ๆ แล้วทำไมคุณภาพครอบครัวเราเป็นแบบนี้ ? แต่ถามไปก็คงจะโดนตบปากฉีก เธอจึงเลือกเงียบและอดทนไว้ วันเวลาของอ้อยในพัทยาผ่านไปอย่างไม่ง่ายนัก ความที่เธอยังสาวมาก หน้าตาดี มีฝรั่งมาติดพันเยอะ ทั้งในแง่ของการเป็นลูกค้า และในแง่ของแฟนชั่วคราว พูดตรงๆคืออ้อยหาเงินได้เยอะมาก แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ทันทีที่ทางบ้านได้กลิ่นว่า ลูกกูหาเงินได้เยอะ ก็เหมือนจะมีรายจ่ายประหลาดโผล่ขึ้นมาเยอะตามเช่นกัน ไม่ใช่แค่ใช้หนี้ ธ.ก.ส. อย่างเดียวตามที่ตกลงไว้ แต่เธอก็สู้มาก สู้จนร่างกายพัง อยากได้อะไรบอกมา เป็นหนี้อะไรอีกพูดมาเลย รู้ว่าตอแหล.....แต่ก็แกล้งเชื่อ พยายามโอนให้สารพัดเท่าที่จะทำได้ แต่เหมือนคนเรามันมีลิมิตนะ จนวันนึงเธอพูดกับแม่ตรงๆว่า จะไม่ส่งให้แล้ว เพราะหนี้ก็ปิดให้ทุกอย่าง ได้โฉนดคืนมาเรียบร้อย แต่เหมือนไม่ใช่แค่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไอ้นี่มันเรียกว่า " กระทืบให้จมดิน " ท่านแม่มีโครงการอยากได้บ้านหลังใหม่ จึงวางแผนให้เธอหาฝรั่งรวยๆสักคนมาเป็นเขย เพื่อจะให้เขยฝรั่งมาปลูกบ้านให้ ซึ่งนี่ไม่ใช่โครงการใหม่นะ เอาเข้าจริงเป็นโครงการที่แม่เธอเคยวางไว้ก่อนแล้ว และเกือบจะสำเร็จด้วย ย้อนไปหลายสิบปีก่อน อุตส่าห์พาฝรั่งมาเที่ยวบ้านเปิดตัวซะดิบดี กะจะจับทำผัวให้ดิ้นไม่หลุด แต่เดชะบุญไม่หลุดจริงๆ แต่ที่ใส่เข้าไปในตัวเธอดันไม่ใช่ของฝรั่งนี่สิ แต่เป็นดุ้นของเพื่อนขี้เมาด้วยกันที่เล็งเธอมานาน แล้ววันนี้น้ำก็ได้รับการระบายเสียที สรุปท้อง แถมฝรั่งทิ้ง จึงเกิดเป็นน้องอ้อยออกมา มาว่าด้วยเรื่องโครงการสร้างบ้านหลังใหม่กันต่อ อ้อ! แต่นิดนึง ๆ อ้อยเองก็ไม่ได้ถูกกับพ่อเท่าไหร่นะ เพราะวีรกรรมที่พ่อทำไว้กับเธอตั้งแต่เด็กจนเข้าวัยรุ่นก็แสบไม่เบา ทั้งแหวกทั้งล้วงทั้งลวนลาม พอเมาขึ้นมาก็คิดว่าเธอเป็นของบำเรอความใคร่ เรียกพ่อได้ไม่เต็มปาก เห็นหน้ากันก็แค่มองผ่าน ไหว้บ้างเล็กน้อย แต่ความเคารพไม่มีเหลือแล้ว ทุกวันนี้ก็เลิกรากับแม่เรียบร้อย เพราะแม่เองก็อยากจะมองหาดุ้นอันใหม่เช่นกัน แต่ประเด็นในเรื่องบ้านเนี่ย อ้อยชัดเจนแต่แรกว่ามันไม่ง่าย และไม่อยากทำ การจะไปหลอกฝรั่งคนนึงให้หลงรัก แล้วพาเขามาเป็นเขย เพื่อจะขอให้เขาปลูกบ้านให้ มันไม่ได้ดวงดีแบบนั้นทุกคน แต่เผอิญว่า อ้อยดันดวงดีนี่สิ !!!! ใช่ครับ! อ้อยมีพ่อใหญ่เยอรมันมาติดจริงๆ แล้วก็มาแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราว หอบมาทั้งสินสอด ทั้งเงินสด อีแม่ยิ้มหน้าบานเลยทีนี้ ภารกิจใกล้สำเร็จแล้ว คุยโวไปทั้งหมู่บ้าน กูมีเขยฝรั่งเว้ย แล้วการก่อสร้างบ้านก็ได้เริ่มต้นขึ้น ฝรั่งคนนี้รวยมาก ซื้อที่ดินใหม่ สร้างใหม่ ปลูกใหม่ทั้งหมด ในวันที่บ้านเสร็จเป็นรูปเป็นร่างเรียบร้อย แฟนฝรั่งของอ้อยก็ไป ๆ กลับๆ ไม่ได้อยู่ไทยประจำ ออยเองก็ยังลงมาทำงานพัทยาหาตังค์อยู่เหมือนเดิม เพราะอีแม่มีรายจ่ายเยอะเหลือเกิน ทั้งเล่นไพ่ ทั้งเปย์ผู้ชาย บางรายถึงขั้นผ่อนมอเตอร์ไซค์ให้โดยใช้เงินของอ้อย แต่ที่มันเจ็บปวดที่สุด แล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่สมควรเกิดขึ้นเลย อ้อยมารู้ทีหลังว่า แม่แสนดีของเธอนี่แหละ คนที่วางแผนให้เธอตั้งแต่เด็ก พอมันเป็นสาวแล้วให้มันไปอยู่พัทยา หาตังค์ หาฝรั่งมาปลูกบ้านให้ จนวันนี้ได้บ้านหลังใหม่สมใจปรารถนา ไม่ใช่เพียงแค่นั้นนะ แม่ของเธอก็ได้ลูกเขยด้วย ได้จริงๆนะ คือได้ขึ้นขย่มลูกเขยตัวเอง ใช่ครับ! อีแม่เล่นชู้กับผัวลูก วันที่อ้อยจับได้ คือจับได้แบบคาตา มันไม่มีข้อแก้ตัวอะไรได้อีก แม่กับลูกใช้ผัวคนเดียวกัน มันเกินจะรับได้ สุดท้ายแล้วทุกอย่างที่เคยสร้างมา ทุกอย่างที่เคยลำบากมา ปลดหนี้ให้หลายแสน ไถโฉนดคืนมาให้ จะเลี้ยงผู้ชายกี่คนลูกส่งตังค์ให้ทั้งหมด อยากมีบ้านหลังใหม่ ก็ได้สมใจแล้ว ก็เอาเป็นว่า แล้วต่อกันในชาตินี้ ไม่ต้องมีอะไรติดค้างกันอีก ทุกวันนี้อ้อยก็ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน เลี้ยงตัวเองคนเดียว ถามว่าตัดขาดแม่ลูกไหม? มันก็คงยาก แต่ถามว่าจะสนิทกับแม่เหมือนเดิมไหม ? มันก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ตลอดชีวิตเราอาจจะได้ยินคำพูดว่า ครอบครัวคือพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด พ่อแม่คือคนที่รักเราที่สุด ไม่มีใครมาเปรียบเทียบได้ แต่พอเจอเหตุการณ์นี้แล้ว มันก็ฉุกคิดหลายอย่าง กับบางคน ย้ำว่าบางคนนะ การมีลูกสำหรับเขา มันอาจไม่ใช่ความสุขใจ แต่มันคงเป็นการคิดว่า " กูจะใช้ประโยชน์จากมันยังไงดี ? " . . - พี่ภาส เพจเดินรอบพัทยา -

🙏วันนี้วันพระ ขอให้เป็นวันที่ดีมีแต่ความสุข #สวนนงนุชพัทยา

Pattaya reeling from heavy rains as flash floods damage key roads across the city. PATTAYA, Thailand – A powerful storm swept through Pattaya for the last few days, bringing heavy rains and flash flooding that damaged several key roads, disrupted traffic, and raised concerns among residents and commuters. The hardest-hit areas include South Pattaya, where water overflowed onto the streets, severely damaging road surfaces and causing deep potholes and erosion. One of the most affected zones is the road along the railway behind Wat Thammasamakkee in South Pattaya. The downpour caused runoff to erode the pavement, rendering parts of the route unsafe for travel. Commuters reported stalled vehicles and bottlenecks during peak hours, prompting swift response from local authorities. The Construction and Maintenance Division of Pattaya City’s Engineering Office has mobilized repair crews to restore the damaged surfaces and ensure the road is safe for public use. Emergency repairs are currently underway, with workers racing against time to patch potholes, fill eroded sections, and stabilize the road shoulder. Repair crews deployed along railway road near Wat Thammasamakkee to fix flood-eroded surface. “Restoring traffic flow is our top priority,” a city engineer on-site told reporters. “The floodwaters caused significant surface damage, but we are working around the clock to make the route passable again.” The city has urged residents to steer clear of heavily affected areas and adhere to detour signs while repairs are underway. With more rain forecast in the coming days, authorities remain on high alert for further flooding and potential infrastructure damage. Pattaya City officials are also encouraging the public to report any flooding, road damage, or storm-related hazards via the City Hotline 1337, available 24/7. The hotline enables quick communication with municipal departments, helping speed up emergency responses and repair efforts. Officials stressed the importance of public cooperation in identifying problem areas to support timely restoration and ensure community safety. City workers rush to restore traffic access in South Pattaya after stormwater tears up asphalt.   Authorities warn of further rain as Pattaya races to fix damaged roads before the next downpour.