Cambodian army officers inspect the arrival of Chinese military equipment. The prime ministers of Thailand and Cambodia are categorical not to cede one inch of their territory. June 14 sees the bilateral meeting of the Joint Boundary Commission but that won’t consider the meaty issues of borders in four contested areas, ownership of a clutch of temples or even the recent closure of a land crossing by the Cambodian side. If the two ASEAN partners can’t solve their territorial issues alone – a foregone conclusion for sure – Cambodian foreign minister Prak Sokhonn will lead a team to the International Court of Justice (ICJ) in Holland for “a final resolution”. Of course, he will. The ICJ has already ruled twice – howbeit in majority and not unanimous judgments – in Cambodia’s favour by awarding her the Preah Vihear ancient temple in the so-called Emerald Triangle. But the judgments in 1962 and 2013 left the surrounding areas to local discussions. Consequently, the Thai army erected barbed wire fences immediately outside the temple on the Thai side of the promontory. Thailand had declined as early as 1960 not to be bound by ICJ judgments. Both Bangkok and Phnom Penh quote the Franco-Siam treaties of 1904 and 1907, when Cambodia was part of the French colonial empire, but there are no agreed maps ancient or modern. Bangkok’s position in any case is that the French negotiators tricked the naive Siam side into simplistic dividing lines which were ambiguous. Similar interpretive, post-colonial problems have arisen with the Cambodia-Laos border and the Singapore-Malaysian-Indonesian dispute about tiny islands, though without the heated nationalistic rhetoric. Cambodian soldiers clap a no-surrender speech by the Phnom Penh government. If the current Pheu Thai government were to agree to international arbitration, Thai nationalists – there is no shortage – would immediately launch a campaign about betrayal with street demonstrations a foregone conclusion. If they got out of hand, the military would be tempted to repeat 2014 and declare a coup to restore order and protect Thai integrity. There are already strong rumors of former enemies – red shirts and yellow shirts – making plans to unseat the Shinawatra administration if it fails to deliver a fervently nationalistic agenda. Bangkok’s negotiating position is not unreasonable. China has ignored the 2016 ruling of the Permanent Court of Arbitration which denied Beijing’s claim to mop up virtually the whole of the South China Sea in a cow’s-tongue sweep. No wonder China is unusually quiet about the current goings-on at Thai-Cambodian borders. In the United States, Donald Trump has presidentially waved aside international agreements as having no relevance and has specifically sanctioned the International Criminal Court. Even as Israel now bombs Iran in a pre-emptive strike, it is hard to justify the move in terms of the United Nations charter. In other words, the world today is far from being subservient to international protocols. Given that ASEAN does not usually intervene in disputes between members, there is no acceptable international forum to arbitrate Thai-Cambodian borders. As the two countries create inconvenience at border posts, try to damage each other’s economy and indulge in threatening language, the hope is that weary and tense troops eventually return to barracks. A war would be unpredictable. Though Thailand has a superior airforce and a huge military budget, Cambodia now has the advantage of recently-arrived Chinese artillery, drones and other advanced military technology. Better not to risk it.

✨️✨️ จังหวัดแพร่ โดย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ ✨️✨️ 📢ขอเชิญชวนเที่ยว งาน Phrae Trade Fair 2025 (แพร่ เทรด แฟร์ 2025) ครั้งที่ 2 🎉 เตรียมพบ งาน Phrae Trade Fair 2025 (แพร่ เทรด แฟร์ 2025) ครั้งที่ 2 ภายใต้โครงการส่งเสริมและสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์จากอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ตลาดยุคใหม่ "Local Wisdom to Global" ประจำปี พ.ศ. 2568 🗓 ระหว่างวันที่ 19 - 23 มิถุนายน 2568 📍 ลานโปรโมชั่น ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลศรีราชา อำเภอเมืองศรีราชา จังหวัดชลบุรี ภายในงานพบกับ... ✨️สินค้าเด่น จากผู้ประกอบการจากจังหวัดแพร่ กว่า 50 คูหา ✨️ช้อป...ชิม..ใช้ สินค้าเกษตรแปรรูป ผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าภูมิปัญญา OTOP / SMEs สินค้า GI สินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งอาหาร ของใช้ของตกแต่ง เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ✨️ชม นิทรรศการผลิตภัณฑ์ดี ผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัดแพร่ ✨️สนุกกับกิจกรรม Workshop Souvenir ของที่ระลึกจากไม้, การทำผ้ากระเป๋าและผ้าเช็ดหน้ามัดย้อม และอื่นๆ อีกมากมาย ✨ ไฮไลต์พิเศษ! พบกับศิลปินชื่อดังทุกวัน วันที่ 19 มิถุนายน 2568 พบศิลปิน "เตวิชญ์ ชัยธัช" วันที่ 20 มิถุนายน 2568 พบศิลปินล้านนา "ตู่ ดารณี" วันที่ 21 มิถุนายน 2568 พบศิลปิน "นุ อนุกูล เพลงเอก" วันที่ 22 มิถุนายน 2568 พบศิลปิน "หญิง ธิติกานต์" วันที่ 23 มิถุนายน 2568 พบศิลปิน "มินตรา น่านเจ้า" และวันที่ 19-20 มิถุนายน 2568 พบ Influencer "เตวิชญ์ ชัยธัช" มา Live สินค้าภายในงาน 🎁 กิจกรรม “ช้อป ซิม ใช้” เพียงซื้อสินค้าครบ 300 บาท ลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษภายในงาน 📌 มาร่วมสนับสนุนสินค้าชุมชน เสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น พร้อมความบันเทิงครบรส! แล้วพบกันที่ Phrae Trade Fair 2025 🎊 อย่าลืม 19 - 23 มิถุนายน 2568 นี้ ในงาน "Phrae Trade Fair 2025 ครั้งที่ 2"ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

รีบแวะมาด่วน‼️ งาน ช้อปชมชิม 🎡 มหกรรมสร้ายรายได้ ชุมชนและ ของดีชลบุรี ของประจำเมืองชล ของกิน ของใช้ ของอร่อยเพียบ ** งานเริ่มตั้งแต่ 9-15 มิถุนายน 2568 ** ⭐️ ชมฟรี ศึกมวย CPF ⭐️ ชมฟรี คอนเสิร์ตทุกคืน 📍พิกัด: ณ สนามหน้าศาลาจังหวัดชลบุรี #ช็อปชมชิม #งานหน้าศาลชลบุรี #ป่ะพัทยา

เรื่องแบบนี้ ฟังไว้หน่อยก็ดีเชื่อเรื่อง " เวรกกรม " ป่ะ ? เดี๋ยวจะเล่าอะไรให้ฟัง มันเป็นเรื่องราวของสาวใหญ่คนนึงในพัทยา ใช้ชื่อสมมุติว่า ยายเพ็ญ ล่ะกัน สมัยแกเป็นสาว ๆ แกก็มีหาจับฝรั่งตามบาร์ที่พัทยานี่แหละ บ้านเกิดแกอยู่แถบชายแดนไทยเขมรเลยนะ สมัยนั้นผู้หญิงมากันเยอะ ค่านิยมอยากได้ " ผัวอเมริกัน " กลับไปปลูกบ้านกำลังฮิต อธิบายง่าย ๆ มันมียุคที่คนไทยแถบนั้น อยากได้ผัวฝรั่งมาประดับบารมี สมัยก่อนแคว้นนั้นมันกันดารมาก แห้งแล้ง ใครพาฝรั่งกลับมาได้ หลังคาจะไม่รั่ว น้ำจะเต็มตุ่ม พูดง่ายๆ ว่า เอาเงินผัวฝรั่งมาช่วยให้ชีวิตดีขึ้น แล้วตามข่าวทางวิทยุ ทางโทรทัศน์ มันก็ไม่มีที่ไหนดังเท่าพัทยาอีกแล้ว สมัยนั้นทหารอเมริกันเอง ก็ชัดเจนนะว่า ถ้าจะมาหาเมียไทยตัวเล็ก ๆ เก่งขยันงาน ก็ต้องมาหาที่พัทยานี่แหละ ยายเพ็ญก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีคนนั้น แต่วีรกรรมก่อนจะได้ผัวคนนี้ แกก็สุดไม่เบา เพื่อน ๆ แกเล่าว่า ยัยนี่มีวิธีจกตาฝรั่งอย่างแนนเนียบ รู้วิธีฉกเงินฝรั่งทุกรูปแบบ ตอนอยู่ในบาร์ก็มีการสอนเพื่อนด้วยนะ เวลาฝรั่งเข้ามาแล้วเมา ๆ ให้ทำเป็นว่าเดี๋ยวจัดการให้ เอาเงินฝรั่งมาถือเอง จ่ายร้อยนึง แต่ตัวเองหยิบใส่กระเป๋าสามใบแล้ว ฝรั่งเผลอวางกระเป่าตังค์ไว้ แค่เสี่ยววินาที แกสามารถเอาแบงค์ดอลล่าร์ออกมาได้ สรุปใจความคือ ขโมยตังค์ฝรั่งทุกรูปแบบ จนมาเจอกับลุงไมเคิล นามสมุมตินะ ไปได้เสียกันคุยกันอีท่าไหนไม่รู้ แกตะล่อมพาลุงไมเคิลกลับไปบ้านเกิด หว่านล้อมให้ซื้อที่ดินให้ แต่แถบนั้นมันแล้งมาก เห็นว่าไร่นึงไม่กี่พันยุคนั้น กวาดซื้อไว้เยอะมาก เพื่อจะได้อวดคนในหมู่บ้านว่า กูมีที่เว้ยยย ผัวฝรั่งกูรวย แต่จริง ๆ ลุงไมเคิลไม่เต็มใจเลย โดนลากมาแบบงง ๆ ยังไม่พอ ยังถูกยายเพ็ญหลอกให้ปลูกบ้านให้ ซื้อวัวเพิ่ม ซื้อหมูมาเลี้ยง คืออะไรที่พอจะเป็นทรัพย์สินได้ แกหว่านล้อมให้ซื้อหมด ทองเทิงไม่ต้องพูดถึง แกได้มาเพียบ จนสุดท้ายเมื่อทุกอย่างหนำใจ จู่ ๆ แกก็หาเรื่องเลิกกับตาไมเคิล ถีบหัวส่ง แล้วตัวเองก็กลับมาใช้ชีวิตบ้านเกิด วันเวลาผ่านไปหลายสิบปี มีลูกสาวด้วยนะ ได้ลูกกับผัวคนไทย แต่สุดท้ายเลิกกัน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ แกปลูกฝังให้ลูกทำแบบแกตอนสาว ๆ ส่งให้ไปอยู่พัทยา ทำทุกอย่างที่แกเคยทำ ฉกเงินฝรั่งแบบนี้ หลอกแบบนั้น แล้วสุดท้าย ก็ได้ผัวฝรั่งกลับมาปลูกบ้านให้อีกหลังนึง แต่เหมือนเวรกรรมจะมีจริง วันนี้ยายเพ๊ญอายุเข้าเลข 6 แล้ว แกไปติดผัวตำรวจแถว ๆ นั้น ผัวตำรวจเพิ่งจะห้าสิบเอง อ่อนกว่าแกเยอะ พอเขารู้ว่ายายนี่มีที่นาเพียบ มีวัว ไม่ไร่ มีทองเก็บไว้มากมาย ตามสเต็ปเลย ก็หลอกแดกสิครับ ถลุงยายเพ็ญจนหมดตัว แต่แกพูดไม่ออก กระเจี๊ยวในเครื่องแบบมันหอมหวาน ไปไหนมาไหนมีแต่คนชม คุณนายตำรวจ แต่หารู้ไม่ว่า มึงอ่ะเมียน้อยเขา ผัวอยากได้อะไรซื้อให้ จะเอาเท่าไหร่เปย์หมด ขอแค่มีหำหลวงคอยประดับบารมีไว้เคียงข้าง แล้วพอถลุงจนหนำใจ รู้มั้ยเกิดไรขึ้น อีตำรวจก็ทิ้งสิครับ จะอยู่หาห่าอะไร เงินไม่มี หอยก็ไม่หวาน สุดท้ายก็ทิ้ง และที่น่าสังเวชคือ ไม่ใช่ว่ายายเพ็ญเอาเงินสดไปเปย์ผัวนะ แต่แกเอาที่นา ที่ไร่ ไปเข้าธนาคาร เพื่อจะเอาเงินมาให้ผัวสุดที่รักของแก นั่นแปลว่า ผัวไปแล้ว แต่หนี้สินยังอยู่ แถมตัวกูก็แก่เเล้วด้วย เคยทำกับฝรั่งไว้ วันนี้โดนผัวไทยหลอกบ้าง แล้วไม่ใช่แค่นั้นนะ ลูกสาวสุดที่รักที่ตัวเองบ่มวิชาไว้ให้ ก็เริ่มจะมีอาการเดียวกัน ไปหลอกเงินฝรั่งมาเยอะ ตอนนี้เริ่มโดน " ครูหนุ่ม " ดูดเงินไปบ้างแล้ว คืออย่างอื่นก็โดนดูดแน่นอน แต่คราวนี้เห็นว่า อยากจะให้น้องเอาโฉนดไปเข้าธนาคารให้หน่อย พี่ต้องการใช้เงินก้อน ว่าซ่านนนน ไม่รู้งานนี้จะรอดหรือไม่รอด แต่ล่าสุด ยายเพ็ญลงมายืนจับแขกอยู่พัทยาอีกครั้งแล้ว ในสภาพวัย 60 ที่พยายามแต่งตัวเหมือน 40 กว่า โดนต่อราคาเท่าไหร่ก็ต้องไป ทำไงได้หมดตัวเเล้ว อินเดียต่อ 300 ยังต้องไป เพราะไม่มีตังค์ . . - พี่ภาส เพจเดินรอบพัทยา -

เชื่อเรื่อง " เวรกกรม " ป่ะ ? เดี๋ยวจะเล่าอะไรให้ฟัง มันเป็นเรื่องราวของสาวใหญ่คนนึงในพัทยา ใช้ชื่อสมมุติว่า ยายเพ็ญ ล่ะกัน สมัยแกเป็นสาว ๆ แกก็มีหาจับฝรั่งตามบาร์ที่พัทยานี่แหละ บ้านเกิดแกอยู่แถบชายแดนไทยเขมรเลยนะ สมัยนั้นผู้หญิงมากันเยอะ ค่านิยมอยากได้ " ผัวอเมริกัน " กลับไปปลูกบ้านกำลังฮิต อธิบายง่าย ๆ มันมียุคที่คนไทยแถบนั้น อยากได้ผัวฝรั่งมาประดับบารมี สมัยก่อนแคว้นนั้นมันกันดารมาก แห้งแล้ง ใครพาฝรั่งกลับมาได้ หลังคาจะไม่รั่ว น้ำจะเต็มตุ่ม พูดง่ายๆ ว่า เอาเงินผัวฝรั่งมาช่วยให้ชีวิตดีขึ้น แล้วตามข่าวทางวิทยุ ทางโทรทัศน์ มันก็ไม่มีที่ไหนดังเท่าพัทยาอีกแล้ว สมัยนั้นทหารอเมริกันเอง ก็ชัดเจนนะว่า ถ้าจะมาหาเมียไทยตัวเล็ก ๆ เก่งขยันงาน ก็ต้องมาหาที่พัทยานี่แหละ ยายเพ็ญก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีคนนั้น แต่วีรกรรมก่อนจะได้ผัวคนนี้ แกก็สุดไม่เบา เพื่อน ๆ แกเล่าว่า ยัยนี่มีวิธีจกตาฝรั่งอย่างแนนเนียบ รู้วิธีฉกเงินฝรั่งทุกรูปแบบ ตอนอยู่ในบาร์ก็มีการสอนเพื่อนด้วยนะ เวลาฝรั่งเข้ามาแล้วเมา ๆ ให้ทำเป็นว่าเดี๋ยวจัดการให้ เอาเงินฝรั่งมาถือเอง จ่ายร้อยนึง แต่ตัวเองหยิบใส่กระเป๋าสามใบแล้ว ฝรั่งเผลอวางกระเป่าตังค์ไว้ แค่เสี่ยววินาที แกสามารถเอาแบงค์ดอลล่าร์ออกมาได้ สรุปใจความคือ ขโมยตังค์ฝรั่งทุกรูปแบบ จนมาเจอกับลุงไมเคิล นามสมุมตินะ ไปได้เสียกันคุยกันอีท่าไหนไม่รู้ แกตะล่อมพาลุงไมเคิลกลับไปบ้านเกิด หว่านล้อมให้ซื้อที่ดินให้ แต่แถบนั้นมันแล้งมาก เห็นว่าไร่นึงไม่กี่พันยุคนั้น กวาดซื้อไว้เยอะมาก เพื่อจะได้อวดคนในหมู่บ้านว่า กูมีที่เว้ยยย ผัวฝรั่งกูรวย แต่จริง ๆ ลุงไมเคิลไม่เต็มใจเลย โดนลากมาแบบงง ๆ ยังไม่พอ ยังถูกยายเพ็ญหลอกให้ปลูกบ้านให้ ซื้อวัวเพิ่ม ซื้อหมูมาเลี้ยง คืออะไรที่พอจะเป็นทรัพย์สินได้ แกหว่านล้อมให้ซื้อหมด ทองเทิงไม่ต้องพูดถึง แกได้มาเพียบ จนสุดท้ายเมื่อทุกอย่างหนำใจ จู่ ๆ แกก็หาเรื่องเลิกกับตาไมเคิล ถีบหัวส่ง แล้วตัวเองก็กลับมาใช้ชีวิตบ้านเกิด วันเวลาผ่านไปหลายสิบปี มีลูกสาวด้วยนะ ได้ลูกกับผัวคนไทย แต่สุดท้ายเลิกกัน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ แกปลูกฝังให้ลูกทำแบบแกตอนสาว ๆ ส่งให้ไปอยู่พัทยา ทำทุกอย่างที่แกเคยทำ ฉกเงินฝรั่งแบบนี้ หลอกแบบนั้น แล้วสุดท้าย ก็ได้ผัวฝรั่งกลับมาปลูกบ้านให้อีกหลังนึง แต่เหมือนเวรกรรมจะมีจริง วันนี้ยายเพ๊ญอายุเข้าเลข 6 แล้ว แกไปติดผัวตำรวจแถว ๆ นั้น ผัวตำรวจเพิ่งจะห้าสิบเอง อ่อนกว่าแกเยอะ พอเขารู้ว่ายายนี่มีที่นาเพียบ มีวัว ไม่ไร่ มีทองเก็บไว้มากมาย ตามสเต็ปเลย ก็หลอกแดกสิครับ ถลุงยายเพ็ญจนหมดตัว แต่แกพูดไม่ออก กระเจี๊ยวในเครื่องแบบมันหอมหวาน ไปไหนมาไหนมีแต่คนชม คุณนายตำรวจ แต่หารู้ไม่ว่า มึงอ่ะเมียน้อยเขา ผัวอยากได้อะไรซื้อให้ จะเอาเท่าไหร่เปย์หมด ขอแค่มีหำหลวงคอยประดับบารมีไว้เคียงข้าง แล้วพอถลุงจนหนำใจ รู้มั้ยเกิดไรขึ้น อีตำรวจก็ทิ้งสิครับ จะอยู่หาห่าอะไร เงินไม่มี หอยก็ไม่หวาน สุดท้ายก็ทิ้ง และที่น่าสังเวชคือ ไม่ใช่ว่ายายเพ็ญเอาเงินสดไปเปย์ผัวนะ แต่แกเอาที่นา ที่ไร่ ไปเข้าธนาคาร เพื่อจะเอาเงินมาให้ผัวสุดที่รักของแก นั่นแปลว่า ผัวไปแล้ว แต่หนี้สินยังอยู่ แถมตัวกูก็แก่เเล้วด้วย เคยทำกับฝรั่งไว้ วันนี้โดนผัวไทยหลอกบ้าง แล้วไม่ใช่แค่นั้นนะ ลูกสาวสุดที่รักที่ตัวเองบ่มวิชาไว้ให้ ก็เริ่มจะมีอาการเดียวกัน ไปหลอกเงินฝรั่งมาเยอะ ตอนนี้เริ่มโดน " ครูหนุ่ม " ดูดเงินไปบ้างแล้ว คืออย่างอื่นก็โดนดูดแน่นอน แต่คราวนี้เห็นว่า อยากจะให้น้องเอาโฉนดไปเข้าธนาคารให้หน่อย พี่ต้องการใช้เงินก้อน ว่าซ่านนนน ไม่รู้งานนี้จะรอดหรือไม่รอด แต่ล่าสุด ยายเพ็ญลงมายืนจับแขกอยู่พัทยาอีกครั้งแล้ว ในสภาพวัย 60 ที่พยายามแต่งตัวเหมือน 40 กว่า โดนต่อราคาเท่าไหร่ก็ต้องไป ทำไงได้หมดตัวเเล้ว อินเดียต่อ 300 ยังต้องไป เพราะไม่มีตังค์ . . - พี่ภาส เพจเดินรอบพัทยา -

มิสทีน (MISTINE) ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล เนื่องในวันทะเลโลก ภายใต้โครงการ "มิสทินร่วมใจรักษ์ฟื้นฟูแนวปะการังแหล่งท่องเที่ยวของไทย" โดยมีกิจกรรมเก็บขยะใต้ทะเลและทำความสะอาดแนวปะการังที่เกาะล้าน เมืองพัทยา โดยนำทัพนักดำน้ำจิตอาสาลงพื้นที่เก็บขยะใต้ทะเลและทำความสะอาดแนวปะการัง​ ณ. หมู่เกาะล้าน เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีนายปรานต์ ดิลกคุณากุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเป็นประธานในกิจกรรมครั้งนี้ ร่วมด้วยอาสาสมัครดำน้ำของมิสทิน กลุ่มเครือข่ายอาสาสมัครนักดำน้ำ ที่ได้ผ่านการฝึกอบรมการดำน้ำหลักสูตร Open water และ Advanced รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กว่า 50 คน ถือเป็นกิจกรรมที่จุดประกายพลังคนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปให้หันมาเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ท้องทะเลไทยอย่างจริงจังและยั่งยืน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูปะการังและระบบนิเวศทางทะเลไทย ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือสำคัญระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของเครือข่ายดำน้ำผ่านกิจกรรมจิตอาสาพร้อมทั้งรณรงค์ให้ยกเลิกการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อปะการังในผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อรักษาแนวปะการังและสิ่งแวดล้อมทาง และสร้างจิตสำนึกรักษ์โลกให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน

ฟิตมากกก กางเกงอ่ะฟิตมากกพี่นักวิ่งอะค้าบบบ 😆

ป้าแม่บ้านวัย59ปีนำกล้องวงจรปิดจับภาพหญิงสาวขโมยรถจยย.ไปวอนตำรวจหรือคนที่มีเบาะแส นำรถมาคืนมอบให้5,000บาท เมื่อเวลา17.00น. ของวันที่ 13 มิถุนายน 2568 น.ส.รัตยา เทศฉาย อายุ59ปี อาชีพแม่บ้านคอนโด นำภาพกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ของตนร้องผู้สื่อข่าวให้ช่วยประชาสัมพันธ์ติดตามตัวคนร้ายและรถจักรยานยนต์ของตนมาคืนยินดีมอบเงินรางวัลให้5,000บาทสำหรับคนที่นำรถมาคืนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามมาได้ โดยน.ส.รัตยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2568 เวลาประมาณ 13.35 น. ตนทำงานเป็นแม่บ้านคอนโดแห่งหนึ่งและเลิกงานได้ขับรถมาหาเพื่อนและจอดรถจักรยานยน์ยี่ห้อ HONDA รุ่น SCOOPY เสีชมพู ดำ ทะเบียน 1กซ 1462 ชลบุรี ไว้ที่บริเวณหน้าโอเชียลเพิล คอนโด ซอยทัพพระยา 12 ต่อมาตนตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวหายไปจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่ามีคนร้ายเป็นหญิง ไม่ทราบชื่อ กล้องสามารถจับภาพหน้าตาได้อย่างชัดเจนมาลักเอาไป ซึ่งตนได้ลืมนำกุญแจออกจากรถ ตนจึงนำกล้องวงจรปิด มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อร.ต.อ. ปกรณ์ ประกอบนันท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี เพื่อดำเนินการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมาย นอกจานี้แล้วน.ส.รัตยา เทศฉาย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าตอนนี้ตนมีอายุจะ60แล้วไม่อยากไปออกรถใหม่กลัวจะผ่อนไม่ไหว อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายมาให้ได้ตนยินดีมอบเงินให้5,000บาทสำหรับคนที่นำรถมามอบคืนให้ ทั้งชาวบ้านและตำรวจ

นายอำเภอบางละมุงลงพื้นที่เกาะล้าน รับจดแจ้งสถานที่พักที่ไม่ใช่โรงแรม หวังดึงสถานประกอบการห้องพักในที่มืดออกสู่แสงสว่าง พบผ่านการพิจารณาเกือบ 160 ราย (13 มิ.ย.68) นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สืบเนื่องจากเกาะล้าน เมืองพัทยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ทำให้มีทั้งห้องพักและโรงแรมผุดขึ้นมากมาย แต่ก็มีห้องพักเป็นจำนวนมากที่ยังไม่มีการจดทะเบียนและเข้าระบบอย่างถูกต้อง ดังนั้นที่ผ่านมาฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง พร้อมด้วย เมืองพัทยา สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา กองพิสูจน์หลักฐาน 2 จังหวัดชลบุรี ลงพื้นเกาะล้านเพื่อรับจดแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมในพื้นที่เกาะล้าน ตามกฎกระทรวง กำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2551 และกฎระทรวง กำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2566 ฉบับที่ 2 เพื่อที่เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการห้องพัก พบว่ามีสถานประกอบการที่สนใจมาทำเกือบ 200 ราย แต่จากการพิจารณา จากเอกสารหลักฐาน การพิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติอาชญากรรม เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณาของนายทะเบียนอำเภอ คุณสมบัติ สถานที่พร้อมและเหมาะสมไหมที่จะสามารถจดแจ้งเป็นที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมได้ จากการพิจารณาพบว่ามี 158 รายที่สามารถจดแจ้งสถานที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมได้ ซึ่งในขณะนี้เอกสารการจดแจ้งพร้อม ซึ่งทางอำเภอบางละมุงจะร่วมกับเมืองพัทยา เดินทางไปมอบใบรับจดแจ้งสถานที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมบนเกาะล้านในวันที่ 16 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ประกอบการที่ผ่านการจดทะเบียนจดแจ้งฯ อย่างถูกต้องแล้ว ก็จะต้องเสียภาษีให้กับเมืองพัทยา […]

🚓พูลวิลล่าตกแต่งมินิมอลโทนขาวดำ บ้าน Cherish' house (DV-2529) 🏁ราคาคืนละ 8900/14 ท่าน 5 ห้องนอน บรรยากาศดี 🌴 ⛱️ จองพูลวิลล่า@baanpoolvilla (มี@นำหน้าครับ) #พัทยา #เที่ยวพัทยา # ที่พักพัทยา #พูลวิลล่าพัทยา #บ้านปาร์ตี้พัทยา #พี่โก้พูลวิลล่าพัทยา #พลูวิลล่าติดทะเล #จอมเทียน